คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 306/2534

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์นำรถยนต์คันพิพาทไปซ่อมเบรกที่ศูนย์บริการของจำเลยที่ 1จำเลยที่ 2 เป็นลูกจ้างและช่างผู้ชำนาญของจำเลยที่ 1 ได้พบเห็นการติดตั้งสปริงรั้ง ก้ามเบรกผิดวิธี แต่กลับปล่อยปละละเลยไม่จัดการแก้ไขให้ถูกต้อง เป็นเหตุให้รถยนต์คันพิพาทเบรกแตกตกลงข้างทางได้รับความเสียหาย และโจทก์ได้รับอันตรายสาหัสเป็นการกระทำโดยประมาทปราศจากความระมัดระวังอย่างร้ายแรง เช่นผู้มีอาชีพอย่างจำเลยที่ 2 พึงปฏิบัติ จึงเป็นการละเมิดต่อโจทก์ในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 2 ในผลละเมิดที่เกิดขึ้น เมื่อรถยนต์คันพิพาทไม่สามารถใช้ได้ และโจทก์ได้ขอค่าเสียหายรถยนต์คันพิพาทเต็มจำนวน โจทก์จึงไม่มีสิทธิที่จะใช้รถยนต์คันพิพาทอีกต่อไป ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถยนต์คันพิพาทจึงไม่เกิดขึ้นโจทก์ที่ 1 จึงไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายในส่วนนี้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันทำละเมิดต่อโจทก์ทั้งสองขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้เงินจำนวน 253,400 บาท แก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยทั้งสองให้การว่า จำเลยทั้งสองไม่ได้กระทำละเมิดต่อโจทก์ทั้งสอง ความเสียหายเกิดจากโจทก์ที่ 2 ขับรถยนต์คันพิพาทโดยประมาทค่าเสียหายของโจทก์ทั้งสองสำนวน 253,400 บาท สูงเกินไป และฟ้องโจทก์เกี่ยวกับค่าเสียหายเป็นฟ้องเคลือบคลุม ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2526 โจทก์ที่ 1 ได้ให้โจทก์ที่ 2 นำรถยนต์คันพิพาทไปซ่อมเบรกที่ศูนย์บริการของจำเลยที่ 1 ซึ่งมีจำเลยที่ 2 เป็นหัวหน้าช่าง เมื่อจำเลยที่ 2ซ่อมเบรกแล้ว โจทก์ที่ 2 ได้รับรถไป วันที่ 17 พฤษภาคม 2526 โจทก์ที่ 2 ขับรถยนต์คันพิพาทบรรทุกข้าวสารไปส่งให้แก่ลูกค้าที่อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อแล่นไปถึงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 92-93 รถยนต์คันพิพาทเบรกแตกตกลงข้างทาง เป็นเหตุให้โจทก์ที่ 2ได้รับอันตรายสาหัส และรถยนต์คันพิพาทได้รับความเสียหาย แล้ววินิจฉัยว่า แม้จะฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 เปลี่ยนผ้าเบรกล้อหน้าด้านขวาของรถยนต์คันพิพาท แต่การที่จำเลยที่ 2 ถอดซีลล้อหน้าและจานเบรกออกเพื่อเปลี่ยนซีลและนำจานเบรกไปเจีย จำเลยที่ 2 ย่อมพบเห็นสปริงรั้ง ก้ามเบรกล้อหน้าด้านขวาติดตั้งผิดวิธี เพราะหลังเกิดเหตุแล้ว จำเลยที่ 2 และพยานจำเลยทั้งสองได้ไปตรวจสภาพรถยนต์คันพิพาท ปรากฏว่าล้อหน้าด้านขวาเพียงล้อเดียวที่ติดสปริงรั้ง ก้ามเบรกไว้ด้านนอกอันเป็นการผิดวิธีการติดตั้งสปริงรั้ง ก้ามเบรก จำเลยที่ 2ซึ่งเป็นช่างผู้ชำนาญของศูนย์บริการของจำเลยที่ 1 พบเห็นการติดตั้งสปริงรั้ง ก้ามเบรกผิดวิธี แต่กลับปล่อยปละละเลยไม่จัดการแก้ไขให้ถูกต้องก่อนที่จะประกอบซีลล้อและจานเบรก จึงเป็นการกระทำโดยประมาทปราศจากความระมัดระวังอย่างร้ายแรง เช่นผู้มีอาชีพอย่างจำเลยที่ 2พึงปฏิบัติ การประกอบสปริงรั้ง ก้ามเบรกผิดวิธีเป็นเหตุให้ระบบเบรกล้อหน้าด้านขวาของรถยนต์คันพิพาทแตกหาใช่เกิดจากการใช้เบรกมากแต่ประการใดไม่ การกระทำของจำเลยที่ 2 จึงเป็นการละเมิดต่อโจทก์ทั้งสอง จำเลยที่ 2 เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 1 และกระทำไปในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 จึงต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 2ในผลละเมิดที่เกิดขึ้นด้วย
สำหรับค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถยนต์คันพิพาทเห็นว่า เมื่อรถยนต์คันพิพาทไม่สามารถใช้ได้และโจทก์ที่ 1 ขอค่าเสียหายรถยนต์คันพิพาทเต็มจำนวน จึงไม่มีสิทธิที่จะใช้รถยนต์คันพิพาทอีกต่อไปค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถยนต์คันพิพาทจึงไม่เกิดขึ้น โจทก์ที่ 1จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าเสียหายในส่วนนี้ ส่วนโจทก์ที่ 2 ไม่ได้ออกค่าใช้จ่ายต่าง ๆ และมิได้ขอค่าเสียหายสำหรับโจทก์ที่ 2 มาจึงไม่กำหนดค่าเสียหายให้ ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษามานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาโจทก์ทั้งสองฟังขึ้น
พิพากษากลับ ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินแก่โจทก์ที่ 1จำนวน 246,200 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ.

Share