คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3057/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานมีสุรากลั่นและสุราแช่กรรมหนึ่ง และฐานจำหน่ายสุราอีกกรรมหนึ่ง ศาลชั้นต้น(ศาลแขวง) ยกฟ้องโจทก์สำหรับข้อหาจำหน่ายสุราส่วนข้อหามีสุรากลั่นและสุราแช่แยกลงโทษเป็น 2 กรรม กรรมแรกปรับ 200 บาท ส่วนกรรมหลังปรับ 600 บาท และสั่งรับอุทธรณ์ข้อเท็จจริงของจำเลยเฉพาะกรรมหลังซึ่งปรับ 600 บาทส่วนกรรมแรกไม่รับ เพราะเห็นว่าปรับไม่เกิน 500 บาท ต้องห้ามอุทธรณ์ข้อเท็จจริง แม้ศาลชั้นต้นจะไม่รับอุทธรณ์ข้อหามีสุรากลั่น ก็ต้องถือว่าข้อหามีสุรากลั่นนั้นยังไม่ถึงที่สุด เพราะข้อหามีสุรากลั่นและมีสุราแช่รวมเป็นความผิดอยู่ในกรรมเดียวกัน เมื่อศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วเห็นว่าจำเลยไม่ได้กระทำผิด ย่อมจะยกฟ้องโจทก์ไปถึงข้อหามีสุรากลั่นได้ด้วย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185 ประกอบด้วย มาตรา 215

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานมีสุรากลั่นและสุราแช่ไว้ในครอบครองโดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นสุราที่ทำขึ้นโดยไม่รับอนุญาตและฐานขายสุรากลั่นดังกล่าวให้แก่ผู้มีชื่อตามพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493 มาตรา 4, 5, 31, 32 และ 45 พระราชบัญญัติสุรา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2497 มาตรา 5, 6 และขอให้ริบของกลาง

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ฐานขายสุรากลั่นแต่ลงโทษฐานมีสุรากลั่นปรับ 200 บาท และฐานมีสุราแช่ปรับ 600 บาท ริบของกลาง คำขออื่นให้ยก

จำเลยอุทธรณ์

ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์เฉพาะข้อหามีสุราแช่ ส่วนข้อหามีสุรากลั่นต้องห้ามฎีกาข้อเท็จจริงจึงมีคำสั่งไม่รับ

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องโจทก์ข้อหาฐานมีสุราแช่และสุรากลั่นด้วย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์นายหนึ่งทำความเห็นแย้งว่าจำเลยไม่อุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งไม่รับข้อหามีสุรากลั่น ข้อหามีสุรากลั่นจึงยุติ ศาลอุทธรณ์ไม่ชอบที่จะยกขึ้นวินิจฉัย

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า สำหรับปัญหาที่ว่าศาลอุทธรณ์มีอำนาจยกฟ้องโจทก์รวมถึงข้อหามีสุรากลั่นด้วยหรือไม่นั้น ศาลฎีกาเห็นว่าที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีสุราแช่และสุรากลั่นนั้นเป็นความผิดอันเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายบทเดียวแต่มีความผิดหลายข้อหา ทั้งจับได้ในคราวเดียวกันและตามฟ้องก็รวมไว้ในข้อเดียวกันจะต้องถือว่า ข้อหาแต่ละข้อหาทั้งหมดรวมกันเป็นความผิดอยู่ในกรรมเดียวกันและรวมเป็นคดีเดียวกัน เมื่อมีอุทธรณ์ในข้อหาหนึ่งแม้จะไม่อุทธรณ์ข้อหาอื่นด้วยก็ต้องถือว่าคดีทั้งคดียังไม่ถึงที่สุด คดีนี้จำเลยอุทธรณ์ทั้งสองข้อหา ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์ข้อหามีสุรากลั่นซึ่งมีผลเท่ากับไม่มีอุทธรณ์ในข้อหาดังกล่าวแต่สั่งรับอุทธรณ์ข้อหามีสุราแช่ คดีที่โจทก์ฟ้องทั้งคดีจึงยังไม่ถึงที่สุด กรณีนี้ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยไม่ได้ขายสุราแต่ก็ไม่เชื่อว่าพยานโจทก์นำสุราของกลางไปซุกซ่อนยัดเยียดไว้ที่บ้านจำเลยจึงลงโทษจำเลยทั้งสองข้อหา แต่ศาลอุทธรณ์เห็นว่าข้อเท็จจริงที่ฟังยุติว่าจำเลยไม่ได้ขายสุรากลั่น สุรากลั่นที่นายสุทัศน์นำมาเป็นของกลางไม่ใช่ของจำเลยจำเลยมิได้กระทำความผิดจึงพิพากษายกฟ้องได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185 ประกอบด้วยมาตรา 215

สำหรับปัญหาที่ว่าจำเลยมีสุรากลั่นและสุราแช่ผิดกฎหมายหรือไม่นั้น ศาลฎีกาได้พิเคราะห์พยานหลักฐานของโจทก์แล้ว เห็นว่าพยานโจทก์ยังเป็นที่สงสัยควรยกประโยชน์ให้เป็นผลดีแก่จำเลย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 227

พิพากษายืน

Share