คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3048/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ลืมเสียค่าอ้างเอกสารและศาลชั้นต้นก็มิได้สั่งให้โจทก์จัดการชำระค่าอ้างเอกสารนั้น การที่โจทก์ทราบภายหลังที่ศาลชั้นต้นพิพากษาคดีแล้วและโจทก์ได้จัดการชำระค่าอ้างเอกสารขณะโจทก์ยื่นคำแก้อุทธรณ์ นับว่าโจทก์ได้จัดการแก้ไขข้อหลงลืมแล้ว ไม่ทำให้การรับฟังพยานเอกสารของโจทก์เสียไป

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เดิมจำเลยเป็นหนี้โจทก์ ๗๕,๐๐๐ บาท ต่อมาได้ตกลงแปลงหนี้เป็นกู้ยืม ครบกำหนดแล้วจำเลยไม่ชำระ ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า จำเลยไม่เคยเป็นหนี้โจทก์ สัญญากู้เป็นเอกสารปลอม ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยชำระเงิน ๘๖,๒๕๐ บาทแก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๑๕ ต่อปีในต้นเงิน ๗๕,๐๐๐ บาทนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่า โจทก์ไม่ได้เสียค่าอ้างเอกสารก่อนศาลชั้นต้นพิพากษา จึงรับฟังพยานเอกสารของโจทก์ไม่ได้นั้นพิเคราะห์แล้วเห็นว่า โจทก์ลืมเสียค่าอ้างเอกสารระหว่างพิจารณาและศาลชั้นต้นก็มิได้สั่งให้โจทก์จัดการชำระค่าอ้างเอกสาร การที่โจทก์ทราบภายหลังศาลชั้นต้นพิพากษาแล้ว และโจทก์ได้จัดการชำระค่าอ้างเอกสารขณะโจทก์ยื่นคำแก้อุทธรณ์ก็นับว่าโจทก์ได้จัดการแก้ไขข้อหลงลืมแล้ว ไม่ทำให้การรับฟังพยานเอกสารของโจทก์ถึงกับเสียไปแต่อย่างใด ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.

Share