คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3048/2533

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

โจทก์ลืมเสียค่าอ้างเอกสารระหว่างพิจารณาและศาลชั้นต้นก็มิได้สั่งให้โจทก์จัดการชำระค่าอ้างเอกสาร การที่โจทก์ทราบภายหลังศาลชั้นต้นพิพากษาแล้วและโจทก์ได้จัดการชำระค่าอ้างเอกสาร ขณะโจทก์ยื่นคำแก้ อุทธรณ์ก็นับว่าโจทก์ได้จัดการแก้ไขข้อหลงลืมแล้ว ไม่ทำให้การรับฟังพยานเอกสารของโจทก์ถึงกับเสียไป.

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องให้ศาลบังคับให้จำเลยทั้งสามชำระหนี้เงินกู้ที่นาวาเอกพจน์ ปัจฉิมอนันต์ ผู้ตายได้กู้ยืมไปจากโจทก์ ศาลชั้นต้นกำหนดให้จำเลยทั้งสามนำสืบก่อน แต่จำเลยที่ 1 และที่ 2 ขอเลื่อนคดี ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตและถือว่าจำเลยที่ 1 และที่ 2 ไม่มีพยานมาสืบแล้ว พิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงินแก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ย จำเลยที่ 1 และที่ 2 ยื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าว สำหรับจำเลยที่ 1 ได้ยื่นคำร้องขอดำเนินคดีในชั้นอุทธรณ์อย่างคนอนาถาด้วย และพร้อมกันนั้นได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนการสาบานตัวออกไป 7 วัน
ศาลชั้นต้นสั่งคำร้องขอเลื่อนการสาบานตัวของจำเลยที่ 1 ว่าคำร้องไม่ปรากฏพฤติการณ์พิเศษที่จะขอขยายระยะเวลาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 ยกคำร้อง
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์สั่งยกคำร้อง หากจำเลยที่ 1 ประสงค์จะอุทธรณ์ต่อไปก็ให้นำเงินค่าฤชาธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายตามคำพิพากษามาวางศาลชั้นต้นภายใน 15 วัน นับแต่วันทราบคำสั่งของศาลอุทธรณ์
จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้วประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรคแรก บัญญัติว่า”ผู้ใดมีความจำนงจะฟ้องหรือต่อสู้คดีอย่างคนอนาถา ให้ยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องต่อศาลชั้นต้นที่จะฟ้องหรือได้ฟ้องคดีไว้นั้นพร้อมกับคำฟ้อง คำฟ้องอุทธรณ์…และสาบานตัวให้คำชี้แจงว่าตนไม่มีทรัพย์สินพอจะเสียค่าธรรมเนียมศาล…” วรรคสองว่า “เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้จดทถ้อยคำสาบานของผู้ขอฟ้องหรือต่อสู้คดีอย่างคนอนาถาแล้ว ให้ศาลจัดส่งสำเนาถ้อยคำเช่นนี้ไปให้คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งพร้อมด้วยสำเนาคำขอฟ้องหรือต่อสู้คดีอย่างคนอนาถา…”ศาลฎีกา เห็นว่า จากบทบัญญัติกฎหมายดังกล่าว กฎหมายบังคับว่าคู่ความที่ยื่นคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาจะต้องสาบานตัวพร้อมกับการยื่นคำฟ้องหรือคำฟ้องอุทธรณ์ จึงเป็นการที่กฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งได้กำหนดระยะเวลาเอาไว้ ซึ่งกำหนดระยะเวลาดังกล่าวศาลมีอำนาจที่จะออกคำสั่งขยายหรือย่นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 แต่การที่ศาลจะมีคำสั่งขยายระยะเวลาได้นั้น บทบัญญัติ มาตรา 13 บัญญัติว่าให้พึงทำได้ต่อเมื่อมีพฤติการณ์พิเศษ เมื่อตามคำร้องขอเลื่อนการสาบานตัวอันเป็นการขอขยายระยะเวลาของจำเลยที่ 1 กล่าวแต่เพียงว่าจำเลยที่ 1 ไม่สามารถมาศาลเพื่อสาบานตัวได้ โดยมิได้กล่าวอ้างเหตุผลที่มาศาลไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่จำเลยที่ 1 เองย่อมจะทราบดีว่าตนมาศาลไม่ได้เพราะเหตุใด เป็นการกล่าวอ้างอย่างเลื่อนลอย แสดงว่ามิได้มีพฤติการณ์พิเศษอย่างใด…”
พิพากษายืน หากจำเลยที่ 1 ประสงค์จะอุทธรณ์ต่อไปก็ให้นำเงินค่าฤชาธรรมเนียม ซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำพิพากษามาวางศาลชั้นต้นภายใน 15 วัน นับแต่วันฟังคำพิพากษาศาลฎีกา.

Share