คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3039/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 196 ซึ่งได้ยกเลิกและบัญญัติความใหม่เกี่ยวกับการควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ในมาตรา 5 (1) แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ฯ นั้น เป็นการเปลี่ยนแปลงแก้ไขอำนาจการควบคุมผู้ต้องหาที่ได้กระทำความผิดดังกล่าวในชั้นสอบสวนเท่านั้น ไม่รวมถึงอำนาจคุมขังจำเลยในชั้นพิจารณาของศาล ซึ่งคงเป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 196 ข้อ 2 ที่บัญญัติให้พนักงานสอบสวนหรือศาลดำเนินการปล่อยตัวผู้ต้องหาหรือจำเลยตามความในมาตรา 5 ของพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ฯนั้น เป็นบทบัญญัติที่ใช้เฉพาะผู้ต้องหาหรือจำเลยที่ถูกควบคุมหรือต้องขังอยู่ตามพระราชบัญญัติดังกล่าวในวันที่ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 196 มีผลใช้บังคับเท่านั้น หาใช่เป็นการตัดอำนาจศาลในการคุมขังจำเลยในระหว่างพิจารณาภายหลังวันดังกล่าวไม่.

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.๒๔๙๗ มาตรา ๓ ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่าคดีมีมูล ประทับฟ้องโจทก์ไว้พิจารณา จำเลยให้การปฏิเสธ ผู้ประกันยื่นคำร้องขอให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างพิจารณา ศาลชั้นต้นอนุญาตตีราคาค่าประกัน ๔๐,๐๐๐ บาท วันนัดสืบพยานโจทก์จำเลยขอถอนคำให้การเดิมขอให้การใหม่รับสารภาพตามฟ้อง ศาลเลื่อนนัดฟังคำพิพากษาไปถึงวันนัดฟังคำพิพากษาจำเลยไม่มาศาลชั้นต้นจึงสั่งปรับผู้ประกัน ๔๐,๐๐๐ บาท ตามสัญญา และให้ออกหมายจับจำเลยผู้ประกันขอเลื่อนการชำระค่าปรับออกไป ศาลชั้นต้นขยายระยะเวลาชำระค่าปรับให้ ๑ เดือน ถึงกำหนดผู้ประกันขอให้ลดหย่อนค่าปรับลง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าไม่มีเหตุลดหย่อนค่าปรับ ให้เจ้าพนักงานอัยการดำเนินการบังคับคดีต่อไป
ผู้ประกันอุทธรณ์ว่าเงินที่ระบุในเช็คที่โจทก์ฟ้องมีจำนวนเพียง ๒๐,๐๐๐ บาท ตามประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ ๑๙๖ ที่ยกเลิกความในมาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ฯ และใช้ความใหม่แทนข้อ ๒ ศาลจะคุมขังจำเลยไว้ได้ก็เท่าเวลาที่จะถามคำให้การและที่จะรู้ว่าเป็นใครและที่อยู่ของเขาอยู่ที่ไหนเท่านั้น แล้วต้องปล่อยตัวจำเลยไป สัญญาประกันจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้น หรือขอให้ลดหย่อนค่าปรับลง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าให้ปรับผู้ประกัน ๒๐,๐๐๐ บาทนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ผู้ประกันฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ ๑๙๖ ที่ได้ยกเลิกความในมาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ฯ และบัญญัติความใหม่เกี่ยวกับการควบคุมตัวผู้ต้องหาว่ากระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ไว้ในมาตรา ๕ (๑) บทบัญญัติดังกล่าวต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขอำนาจการควบคุมผู้ต้องหาที่กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วย ความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.๒๔๙๗ ในชั้นสอบสวนเท่านั้น ไม่ได้กล่าวอ้างถึงอำนาจคุมขังจำเลยในชั้นพิจารณาของศาลแต่อย่างใด อำนาจการคุมขังจำเลยในชั้นพิจารณาของศาลจึงไม่ได้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง คงเป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ที่ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ ๑๙๖ ข้อ ๒ บัญญัติว่า ในกรณีที่ผู้ต้องหาหรือจำเลยถูกควบคุมหรือต้องขังในชั้นสอบสวนหรือในชั้นพิจารณาของศาลชั้นต้นอยู่ในวันที่ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับนี้ใช้บังคับ ถ้าจำนวนเงินที่ระบุในเช็คในคดีนั้นแต่ละฉบับหรือหลายฉบับรวมกันไม่เกินห้าหมื่นบาท ให้พนักงานสอบสวนหรือศาลดำเนินการปล่อยตัวผู้ต้องหาหรือจำเลยตามความในมาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.๒๔๙๗ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติฉบับนี้โดยมิชักช้านั้นเป็นเพียงบทบัญญัติที่ใช้เฉพาะผู้ต้องหาหรือจำเลยที่ถูกควบคุมหรือต้องขังอยู่ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ.๒๔๙๗ เดิมในวันที่ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับดังกล่าวมีผลใช้บังคับเท่านั้น หาใช่เป็นการตัดอำนาจศาลในการคุมขังจำเลยในระหว่างพิจารณาภายหลังวันดังกล่าวไม่ เพราะถ้าคณะปฏิวัติมีความประสงค์เช่นนั้น ก็คงแก้ไขให้ปรากฏข้อความดังกล่าวในพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.๒๔๙๗ แล้ว ดังนั้น ศาลจึงมีอำนาจคุมขังจำเลยคดีนี้และสั่งปล่อยชั่วคราวโดยมีประกันได้สัญญาประกันตัวจำเลยรายนี้จึงชอบด้วยกฎหมาย และเห็นว่าไม่มีเหตุที่จะลดค่าปรับให้แก่ผู้ประกันอีก
พิพากษายืน.

Share