คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3030/2528

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำว่า “ก่อนที่ได้เอาทรัพย์สินเช่นว่านี้ออกขายทอดตลาด “ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 288 หมายความถึงการขายทอดตลาดบริบูรณ์โดยเจ้าพนักงานบังคับคดีมีการตกลงด้วยการเคาะไม้หรือด้วยกิริยาอื่นอย่างใดอย่างหนึ่งตามจารีตประเพณีในการขายทอดตลาด หรือศาลมีคำสั่งให้ขายแล้ว
เจ้าพนักงานบังคับคดีเพียงแต่นำเรือนพิพาทออกดำเนินการขายทอดตลาด 2 ครั้งแล้วเลื่อนไปประกาศขายทอดตลาดอีกเป็นครั้งที่สามการดำเนินการขายทอดตลาดทั้งสองครั้งยังถือไม่ได้ว่าเป็นการขายทอดตลาดผู้ร้องจึงมีสิทธิที่จะยื่นคำร้องขัดทรัพย์ก่อนการขายทอดตลาดในครั้งที่สามได้

ย่อยาว

กรณีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดียึดเรือน ๑ หลังตามคำขอของโจทก์ และดำเนินการขายทอดตลาด ๒ ครั้ง แต่ศาลชั้นต้นสั่งว่าราคาต่ำไปมาก ให้ประกาศขายใหม่อีกครั้ง เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงประกาศขายทอดตลาดอีกเป็นครั้งที่สาม
ก่อนวันขายทอดตลาดครั้งที่สาม ผู้ร้องยื่นคำร้องว่าเรือนพิพาทไม่ใช่ของจำเลย แต่เป็นของผู้ร้อง ขอให้ปล่อยเรือนพิพาท
โจทก์ให้การว่า ผู้ร้องยื่นคำร้องขัดทรัพย์ภายหลังเวลาที่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้นำเรือพิพาทออกขายทอดตลาดถึง ๒ ครั้งแล้ว ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิที่จะยื่นคำร้องขัดทรัพย์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๘๘ และผู้ร้องซื้อเรือนพิพาทโดยไม่สุจริต
ศาลชั้นต้นฟังว่าเรือพิพาทเป็นของผู้ร้องโดยสุจริต มีคำสั่งให้ถอนการยึดเรือนพิพาท
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า โจทก์ฎีกาว่าการที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขัดทรัพย์ภายหลังที่เจ้าพนักงานบังคับคดีนำเรือนพิพาทออกขายทอดตลาดถึง ๒ ครั้ง คำร้องขัดทรัพย์ของผู้ร้องจึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๘๘ เพราะบทบัญญัติของมาตราดังกล่าวใช้คำว่า”ก่อนที่ได้เอาทรัพย์สินเช่นว่านี้ออกขายทอดตลาด” ที่ศาลอุทธรณ์แปลว่าต้องเป็นการขายทอดตลาดบริบูรณ์ ย่อมเป็นการไม่ถูกต้องนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๓๐ บัญญัติให้ความคุ้มครองแก่ผู้ซื้อทรัพย์โดยสุจริตจากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาล แม้ทรัพย์นั้นจะไม่ใช่ของจำเลยผู้แพ้คดี เจ้าของทรัพย์อันแท้จริงก็ไม่มีสิทธิจะขอให้เพิกถอนการซื้อขายได้ แสดงว่าการที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๘๘ กำหนดให้ผู้ร้องต้องร้องขัดทรัพย์เสียก่อนที่จะเอาทรัพย์ที่ถูกยึดออกขายทอดตลาดก็เพื่อประสงค์จะให้สอดคล้องกับหลักกฎหมายที่ให้ความคุ้มครองแก่ผู้ที่ซื้อทรัพย์โดยสุจริตไปจากการขายทอดตลาดของศาลดังกล่าวมาแล้วข้างต้น จึงต้องแปลคำว่า”ก่อนที่ได้เอาทรัพย์สินเช่นว่านี้ออกขายทอดตลาด” หมายความถึงการขายทอดตลาดบริบูรณ์โดยเจ้าพนักงานบังคับคดีมีการตกลงด้วยการเคาะไม้หรือด้วยกิริยาอื่นอย่างใดอย่างหนึ่งตามจารีตประเพณีในการขายทอดตลาด ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๕๐๙ หรือศาลมีคำสั่งให้ขายแล้วเมื่อกรณีนี้เจ้าพนักงานบังคับคดีเพียงแต่นำเรือนพิพาทออกดำเนินการขายทอดตลาด ๒ ครั้งแล้วเลื่อนไปประกาศขายทอดตลาดอีกเป็นครั้งที่สามตามคำสั่งของศาลการดำเนินการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีทั้งสองครั้งยังถือไม่ได้ว่าเป็นการขายทอดตลาดตามความหมายตามนัยดังกล่าวข้างต้น ผู้ร้องจึงมีสิทธิที่จะยื่นคำร้องขัดทรัพย์ได้ คำร้องขัดทรัพย์ของผู้ร้องจึงไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๘๘
พิพากษายืน

Share