คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3027/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์บรรยายฟ้องว่าโจทก์เป็นลูกจ้างจำเลยได้รับค่าจ้างอัตราสุดท้ายเท่าใดกำหนดจ่ายค่าจ้างเมื่อใดสหภาพแรงงานแต่งตั้งโจทก์เป็นกรรมการลูกจ้างเมื่อใดรวมทั้งวันที่จำเลยมีคำสั่งเลิกจ้างโจทก์โดยมิได้ขออนุญาตต่อศาลแรงงานซึ่งไม่เป็นการเลิกจ้างตามกฎหมายขอให้เพิกถอนคำสั่งเลิกจ้างดังกล่าวและรับโจทก์กลับเข้าทำงานตามเดิมพร้อมทั้งจ่ายค่าจ้างและดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ถือได้ว่าเป็นคำฟ้องที่แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาคำขอบังคับและข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาแล้วโดยไม่จำต้องบรรยายว่ากรรมการลูกจ้างที่สหภาพแรงงานแต่งตั้งมีจำนวนกี่คนเป็นบุคคลใดบ้างและตำแหน่งกรรมการลูกจ้างที่ว่างลง2คนนั้นคือใครตำแหน่งว่างเพราะเหตุใดสหภาพแรงงานมีจำนวนสมาชิกที่เป็นลูกจ้างจำเลยจำนวนเท่าใดมากพอเท่ากับที่กฎหมายกำหนดไว้ในการที่จะมีอำนาจแต่งตั้งกรรมการลูกจ้างหรือไม่เพราะข้อเท็จจริงดังกล่าวโจทก์นำสืบในชั้นพิจารณาได้ฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม จำเลยให้การว่าโจทก์ไม่ใช่กรรมการลูกจ้างเพราะสหภาพแรงงานผู้แต่งตั้งโจทก์เป็นกรรมการลูกจ้างมีสมาชิกไม่ถึงจำนวนตามที่กฎหมายกำหนดให้มีสิทธิในการแต่งตั้งกรรมการลูกจ้างได้แต่จำเลยกลับอุทธรณ์ว่าการแต่งตั้งโจทก์เป็นกรรมการลูกจ้างเพิ่มแทนตำแหน่งที่ว่างไม่ชอบเพราะสมาชิกที่สมัครก่อนถึงวันประชุมใหญ่ของสหภาพแรงงานยังไม่มีฐานะเป็นสมาชิกและไม่มีสิทธิแต่งตั้งกรรมการสหภาพแรงงานกรรมการสหภาพแรงงานที่ได้รับการแต่งตั้งจึงเป็นกรรมการโดยไม่ชอบไม่มีสิทธิแต่งตั้งโจทก์เป็นกรรมการลูกจ้างเพิ่มแทนตำแหน่งที่ว่างโจทก์จึงเป็นกรรมการลูกจ้างที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายซึ่งเป็นคนละเหตุกับที่จำเลยให้การต่อสู้ไว้จึงเป็นอุทธรณ์ในข้อที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลแรงงานต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา225ประกอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ.2522มาตรา31ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นกรรมการลูกจ้างได้ถูกจำเลยเลิกจ้างโดยไม่ได้ขออนุญาตศาลแรงงาน ขอให้เพิกถอนคำสั่งเลิกจ้างและรับโจทก์กลับเข้าทำงานตามเดิม กับให้จ่ายค่าจ้างนับแต่วันเลิกจ้างถึงวันรับกลับเข้าทำงาน พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า ฟ้องเคลือบคลุม จำเลยไม่เคยได้รับแจ้งว่าโจทก์เป็นกรรมการลูกจ้าง โจทก์ไม่ใช่กรรมการลูกจ้างที่ชอบด้วยกฎหมายโจทก์ฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน หรือคำสั่งของจำเลยกรณีร้ายแรงฐานยุยงลูกจ้างของจำเลยไม่ให้ทำงาน จำเลยจึงเลิกจ้างโจทก์ได้โดยโดยไม่ต้องขออนุญาตต่อศาลแรงงาน ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยรับโจทก์กลับเข้าทำงานตามเดิมและให้จ่ายค่าจ้างระหว่างเลิกจ้างจนกว่าจะรับกลับเข้าทำงานพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ คำขออื่นให้ยก
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า ที่จำเลยอุทธรณ์ว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุมนั้น โจทก์บรรยายฟ้องว่าโจทก์เป็นลูกจ้างจำเลยค่าจ้างอัตราสุดท้ายวันละ 132 บาท กำหนดจ่ายค่าจ้างทุกวันที่5 และ 20 ของเดือน เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2537 สหภาพแรงงานคนงานกระดาษยูเนียนแต่งตั้งโจทก์เป็นกรรมการลูกจ้าง เมื่อวันที่21 กรกฎาคม 2537 จำเลยมีคำสั่งเลิกจ้างโจทก์โดยมิได้ขออนุญาตศาลแรงงาน จึงยังไม่เป็นการเลิกจ้างตามกฎหมาย ขอให้เพิกถอนคำสั่งเลิกจ้างโจทก์และรับโจทก์กลับเข้าทำงานตามเดิม กับให้จำเลยจ่ายค่าจ้างแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย เห็นว่า ฟ้องโจทก์เป็นฟ้องที่แสดงโดยแจังชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหา และคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาแล้ว โจทก์ไม่จำต้องบรรยายว่ากรรมการลูกจ้างที่สหภาพแรงงานคนงานกระดาษยูเนียนแต่งตั้งมีจำนวนกี่คน เป็นบุคคลใดบ้านและตำแหน่งที่ว่าง 2 คนนั้น คือใคร ตำแหน่งว่างเพราะเหตุใดสหภาพแรงงานคนงานกระดาษยูเนียนมีจำนวนสมาชิกที่เป็นลูกจ้างของจำเลยอยู่จำนวนเท่าใด มากพอเท่ากับที่กฎหมายกำหนดไว้ในการที่จะมีอำนาจแต่งตั้งกรรมการลูกจ้างหรือไม่ เพราะเป็นข้อเท็จจริงที่โจทก์สามารถนำสืบในชั้นพิจารณาได้ ฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม
ปัญหาว่า โจทก์ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการลูกจ้างโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ในข้อนี้จำเลยอุทธรณ์ว่า กรรมการสหภาพแรงงานคนงานกระดาษยูเนียนที่ได้รับแต่งตั้งจากที่ประชุมใหญ่สามัญครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2536 สมาชิกสหภาพแรงงานดังกล่าวนายทะเบียนและเหรัญญิกของสหภาพแรงงานลงชื่อรับรองความเป็นสมาชิกหลังวันที่ 13 มิถุนายน 2536 ซึ่งตามระเบียบข้อบังคับการเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานฯ จะสมบูรณ์ต่อเมื่อนายทะเบียนได้ลงทะเบียนเป็นสมาชิกให้แล้ว ผู้ที่ยื่นใบสมัครเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานฯ ก่อนและถึงวันที่13 มิถุนายน 2536 จึงยังไม่มีสถานภาพเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานไม่มีสิทธิแต่งตั้งกรรมการสหภาพแรงงาน กรรมการสหภาพแรงงานที่ได้รับแต่งตั้งจึงเป็นกรรมการโดยไม่ชอบ ไม่มีสิทธิแต่งตั้งกรรมการลูกจ้างเมื่อกรรมการลูกจ้างก่อนโจทก์เป็นกรรมการลูกจ้างที่ไม่ชอบแล้วการแต่งตั้งโจทก์เป็นกรรมการลูกจ้างแทนตำแหน่งที่ว่างจึงไม่ชอบด้วยเห็นว่า จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่ใช่กรรมการลูกจ้าง เพราะสหภาพแรงงานคนงานกระดาษยูเนียนผู้แต่งตั้งโจทก์เป็นกรรมการลูกจ้างได้ แต่จำเลยกลับอุทธรณ์ว่า การแต่งตั้งโจทก์เป็นกรรมการลูกจ้างเพิ่มแทนตำแหน่งที่ว่างไม่ชอบ เพราะสมาชิกที่สมัครก่อนถึงวันประชุมใหม่ยังไม่มีฐานะเป็นสมาชิก เมื่อโจทก์ได้รับการแต่งตั้งจึงเป็นกรรมการลูกจ้างไม่ชอบ ซึ่งเป็นคนละเหตุกับที่จำเลยให้การต่อสู้ไว้อุทธรณ์ของจำเลยในข้อนี้จึงเป็นอุทธรณ์ในข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลแรงงานกลาง ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 31ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายืน

Share