แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ตามพฤติการณ์มีเหตุผลควรให้จำเลยเข้าใจได้ว่าโจทก์เป็นคนร้ายที่ลักทรัพย์ของจำเลยไป การที่จำเลยแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนโดยเชื่อว่าเป็นเช่นนั้นจึงไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172
การที่จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านได้รับแจ้งจากจำเลยที่ 1 ว่าทรัพย์ของจำเลยที่ 1 ถูกคนร้ายลักไปแต่ได้ทำบันทึกในวันหลังให้มีข้อความถูกต้องทุกประการและลงวันที่ย้อนหลังให้ถูกต้องตรงกับวันที่ที่มีการแจ้งความนั้น เป็นเพียงการทำบันทึกให้ตรงกับความเป็นจริงว่ามีการแจ้งความในวันใด ไม่เป็นการทำพยานหลักฐานเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 179
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ได้แจ้งความเท็จต่อพนักงานสอบสวนว่า โจทก์ทั้งสองลักเข็มขัดนาก 1 เส้นของจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 1 ทราบว่าไม่เป็นความจริงเพื่อให้โจทก์ทั้งสองต้องโทษทางอาญา และจำเลยที่ 1 ได้ร่วมกับจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านทำพยานหลักฐานเท็จ โดยร่วมกันทำบันทึกมีข้อความว่า ได้มีจำเลยที่ 1 แจ้งความต่อจำเลยที่ 2 ว่าเข็มขัดนากของจำเลยที่ 1 ได้หายไปและมีเหตุการณ์ที่ส่อแสดงว่าโจทก์ทั้งสองเป็นคนร้ายลักทรัพย์เพื่อให้พนักงานสอบสวนเชื่อว่าโจทก์ทั้งสองได้ลักทรัพย์ของจำเลยที่ 1 ไปและมีการแจ้งความไว้ความจริงจำเลยทั้งสองสมคบกันทำบันทึกขึ้นหลังจากจำเลยที่ 1 แจ้งความกล่าวหาโจทก์ทั้งสองต่อพนักงานสอบสวนแล้ว ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172, 173, 179
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วมีคำสั่งให้ประทับฟ้อง
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 172 ลงโทษจำคุก ข้อหาอื่นให้ยกและให้ยกฟ้องจำเลยที่ 2
โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามฟ้อง
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์ขอให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 1 สำหรับความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พฤติการณ์ที่เข็มขัดนากของจำเลยที่ 1 ถูกลักไปนั้นห้องนอนตรงบริเวณที่จำเลยที่ 1 เก็บรักษาสิ่งของ พบร่องรอยถูกรื้อค้น ในวันเกิดเหตุผู้ที่อยู่บนบ้านตลอดเวลาตั้งแต่เวลาประมาณ 6 นาฬิกาจนถึงเวลาเกิดเหตุมีนางผินและโจทก์ทั้งสองส่วนคนอื่นอยู่ที่พื้นดินตรงบริเวณหลังบ้าน นอกจากนี้ก็มีสามีจำเลยที่ 1 เดินไปเดินมาอยู่บนบ้าน ไม่มีบุคคลภายนอกขึ้นมาบนบ้าน มีเหตุผลควรให้จำเลยที่ 1 เข้าใจได้ว่าโจทก์ทั้งสองเป็นคนร้ายที่ลักเข็มขัดนากไป การที่จำเลยที่ 1 แจ้งความโดยเชื่อว่าเป็นเช่นนั้นจึงไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172 ส่วนฎีกาข้อกฎหมายในเรื่องกระทำหลักฐานเท็จที่ว่า ได้มีการทำบันทึกลงวันที่ย้อนหลังนั้น ข้อเท็จจริงคงฟังยุติว่า ข้อความในบันทึกนั้นถูกต้องทุกประการเพียงแต่ทำบันทึกในวันหลังและลงวันที่ย้อนหลังให้ถูกต้องตรงกับวันที่ที่มีการแจ้งความนั้น จึงเป็นเพียงการทำบันทึกให้ตรงกับความเป็นจริงว่ามีการแจ้งความในวันใดไม่เป็นเรื่องการทำพยานหลักฐานเท็จ
พิพากษายืน