คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3024/2525

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามประวัติอาการป่วยของจำเลยเคยมีอาการทางประสาทได้รับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล ก่อนเกิดเหตุจำเลยเกิดความหวาดกลัวว่าจะถูกเพื่อนยิง จึงปิดประตูขังตัวเองอยู่ในห้องมา 4 วันโดยอดอาหารและไม่ได้หลับนอนมาตลอด ขณะเกิดเหตุจำเลยเห็นภาพหลอนมี ปากกระบอกปืน มาจ้องตามช่องไม้แตกมีเสียงดังแช็ก ๆ จึงได้จุดไฟเผาสิ่งของในห้องให้บังเกิดควันตลบแล้วจำเลยกระโดดหนีออกไปทางหน้าต่างข้อเท็จจริงเพียงแค่นี้แม้ยังไม่เป็นการชัดแจ้งว่าจำเลยกระทำความผิดในขณะ ไม่สามารถรู้ผิดชอบหรือไม่สามารถบังคับตนเองได้ อันจะทำให้ไม่ต้อง รับโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 65 วรรคแรกก็จริง แต่ก็แสดงว่าจำเลยมีอาการผิดปกติทางจิตใจหรือจิตบกพร่องอยู่บ้างซึ่งศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น เพียงใดก็ได้ตามมาตรา 65 วรรคสอง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้วางเพลิงเผาโรงเรือนที่คนอยู่อาศัย ไฟได้ลุกไหม้บ้านของนางอุทัยและนางสาวประเสริฐกับทรัพย์สินอื่น ๆ ของนางสาวทับทิมและนางสอาดได้รับความเสียหาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 217, 218, 90

จำเลยให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 218(1) ให้ลงโทษจำคุก

จำเลยอุทธรณ์ขอให้ลงโทษ

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้โทษให้เบาลงและลดโทษให้กึ่งหนึ่ง

โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

ศาลฎีกาเห็นว่า ตามประวัติผู้ป่วยของโรงพยาบาลทหารเรือสมเด็จพระปิ่นเกล้า ได้เคยรับตัวจำเลยไว้รักษาระหว่างวันที่ 15 ถึง 23 กุมภาพันธ์2522 โดยจำเลยมีอาการทางประสาท นอนไม่หลับมา 3 วันเห็นภาพหลอนพูดคนเดียว และมีอาการอาละวาดทำร้ายสิ่งของ แม้จะเป็นเรื่องก่อนเกิดเหตุคดีนี้ แต่ย่อมนำมาเป็นข้อมูลประกอบการวินิจฉัยสภาพทางจิตใจของจำเลยในขณะกระทำผิดได้ ตามพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบได้ความว่า ก่อนเกิดเหตุจำเลยเกิดความหวาดกลัวว่าจะถูกนายวีรวิทย์เพื่อนของตนเองยิง จำเลยจึงปิดประตูลงกลอนขังตัวเองอยู่ในห้องมา 3 วันโดยอดอาหารและไม่ได้หลับนอนมาตลอด ขณะเกิดเหตุจำเลยเห็นภาพหลอนมีปากกระบอกปืนมาจ้องตามช่องไม้แตกเป็นประจำ มีเสียงดังแช็ก ๆ จำเลยจึงจุดไฟเผาสิ่งของในห้องให้บังเกิดควันตลบแล้วจำเลยกระโดดหนีออกทางหน้าต่างวิ่งออกจากบ้านมา เมื่อพบตำรวจก็บอกว่าจำเลยเป็นผู้วางเพลิงเอง ข้อเท็จจริงเพียงแค่นี้แม้ยังไม่เป็นการชัดแจ้งว่า จำเลยกระทำความผิดในขณะไม่สามารถรู้ผิดชอบหรือไม่สามารถบังคับตนเองได้ อันจะทำให้ไม่ต้องรับโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 65 วรรคแรกก็จริง แต่การที่จำเลยเกิดความหวาดกลัวว่าจะถูกเพื่อนของตนเองฆ่าและมองเห็นภาพหลอนว่ามีปากกระบอกปืนมาจ้องตามช่องไม้แตก และมีเสียงดังแช็ก ๆ นั้น แสดงว่าจำเลยมีอาการผิดปกติทางจิตใจหรือจิตบกพร่องอยู่บ้าง ซึ่งศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 65 วรรคสองการที่ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำคุกจำเลยน้อยกว่าศาลชั้นต้นโดยยังอยู่ในระวางโทษตามที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดของจำเลยเช่นนี้ จึงหาเป็นผิดกฎหมายหรือเป็นการเกินสมควรแต่อย่างใดไม่

พิพากษายืน

Share