แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ที่ครอบครองที่ดินมีโฉนดของผู้อื่นไว้โดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเป็นเวลา 10 ปีแล้วถ้ายังมิได้จดทะเบียนสิทธิของตนไว้ย่อมยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ผู้ซื้อผู้ได้สิทธิมาโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริต และได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้ว ไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าที่ดินโฉนด 116 เนื้อที่ 61 ไร่ โจทก์ซื้อจากนางหวาน นางรอมะ และที่ดินโฉนด 119 เนื้อที่ 38 ไร่ 3 งาน 80 ตารางวา โจทก์ซื้อจากนางหวาน นางรอมะ นายลี่ โดยสุจริตจำเลยโต้แย้งขัดขวาง โจทก์จึงฟ้องขอให้ขับไล่และเรียกค่าเสียหาย
จำเลยให้การว่า ที่ดินพิพาทเป็นของจำเลย โดยจำเลยหักล้างถางพงครอบครองเป็นเจ้าของเกิน 10 ปี และต่อสู้ว่าโจทก์ซื้อไม่สุจริต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยครอบครองที่นาโดยความสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเกิน 10 ปี ได้กรรมสิทธิ์ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 แม้ที่ดินพิพาทอยู่ในโฉนดของโจทก์ เมื่อโจทก์รับโอนมาเจ้าของคนก่อน ๆ ไม่มีกรรมสิทธิ์เสียแล้ว ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ขับไล่จำเลยและให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ โดยฟังว่า ที่ดินพิพาทโจทก์ซื้อจากผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่มีชื่อแจ้งในโฉนดโดยสุจริต ไม่รู้ว่าจำเลยเป็นผู้ครอบครองโจทก์ย่อมได้กรรมสิทธิตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299