แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ที่ดินที่มีแต่หนังสือรับรองการทำประโยชน์ ยังไม่มีโฉนดหรือยังไม่เคยมีผู้ใดมีกรรมสิทธิ์ ไม่อาจขอให้ศาลสั่งว่าผู้ใดมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้นได้
ย่อยาว
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องกับนางปีเป็นสามีภรรยากันโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรสบิดามารดาของนางปีให้ยกที่นาให้ผู้ร้องกับนางปี ได้ทำการออก น.ส.๓ ที่นาแปลงนี้ใช่ชื่อนางปีแล้วนางปีตาย ผู้ร้องได้ถือสิทธิครอบครองเป็นเจ้าของนาโดยสงบเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันมา ๘ ปี ไม่มีผู้ใดเข้าเกี่ยวข้อง ขอให้ศาลมีคำสั่งหรือพิพากษาว่าที่นาตามคำร้อง ผู้ร้องมีสิทธิครอบครอง และให้เจ้าหน้าที่อำเภอใส่ชื่อผู้ร้องเป็นเจ้าของใน น.ส.๓ ดังกล่าวด้วย
ศาลชั้นต้นสั่งรับคำร้อง ประกาศนัดไต่สวน
ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่า ผู้คัดค้านเป็นพี่สาวของนางปี ที่ดินพิพาทเป็นสินเดิมของนางปี หลังจากนางปีถึงแก่กรรมผู้คัดค้านได้เข้าครอบครองทำประโยชน์ตลอดมา ผู้ร้องไม่เคยเข้าเกี่ยวข้อง ผู้คัดค้านมีสิทธิดีกว่าผู้ร้อง ขอให้ยกคำร้อง
วันนัดไต่สวน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งเดิม และมีคำสั่งใหม่ไม่รับคำร้องของผู้ร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า กรณีตามคำร้องเป็นการขอให้ศาลมีคำสั่งหรือมีคำพิพากษาแสดงว่าผู้ร้องเป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดิน มิใช่เป็นการขอให้แสดงว่าเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ เพราะที่ดินเป็นที่ไม่มีโฉนด คงมีแต่หนังสือรับรองการทำประโยชน์เท่านั้น เมื่อที่ดินที่ผู้ร้องครอบครองไม่มีโฉนดหรือยังไม่เคยมีผู้ใดมีกรรมสิทธิ์ ก็ไม่มีกฎหมายสนับสนุนให้ผู้ร้องใช้สิทธิทางศาลเสนอคดีไม่มีข้อพิพาทให้ศาลแสดงว่าผู้ร้องมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้นได้
พิพากษายืน