คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3016/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 31(1) มีอยู่ 2 กรณี คือ ขัดขืนไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของศาลที่ออกตามมาตรา 30 เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในบริเวณศาลกรณีหนึ่ง หรือประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลอีกกรณีหนึ่ง เฉพาะในกรณีหลังนี้เมื่อผู้ใดเข้ามาในบริเวณศาลแล้วประพฤติตนไม่เรียบร้อยก็เป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลโดยศาลไม่จำต้องออกข้อกำหนดเสียก่อนการที่ผู้ถูกกล่าวหาพกพาอาวุธปืนพร้อมด้วยกระสุนปืนเข้ามาในบริเวณศาล ก็ถือได้ว่าเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล เป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลแล้ว

ย่อยาว

คดีนี้ ศาลชั้นต้นสั่งลงโทษผู้ถูกกล่าวหาฐานพกพาอาวุธปืนพร้อมด้วยกระสุนปืนเข้ามาในบริเวณศาล เป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลให้ลงโทษจำคุกสองเดือนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 33 ปืนของกลางคืนเจ้าของ

ผู้ถูกกล่าวหาอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ เป็นให้จำคุกผู้ถูกกล่าวหามีกำหนดหนึ่งเดือน

ผู้ถูกกล่าวหาฎีกาว่า ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 30บัญญัติว่า ศาลมีอำนาจออกข้อกำหนดใด ๆ แก่คู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือแก่บุคคลภายนอกที่อยู่ต่อหน้าศาลตามที่เห็นจำเป็น เพื่อรักษาความเรียบร้อยในบริเวณศาล และมาตรา 31(1) บัญญัติว่า ผู้ใดกระทำการใด ๆ ดังกล่าวต่อไปนี้ให้ถือว่ากระทำผิดฐานละเมิดอำนาจศาล

(1) ขัดขืนไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของศาลตามมาตราก่อนอันว่าด้วยการรักษาความเรียบร้อยหรือประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล

วันเกิดเหตุศาลยังมิได้ประกาศหรือออกข้อกำหนดใด ๆ ให้ประชาชนทราบเพื่อได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดของศาล ผู้ถูกกล่าวหาจึงยังไม่มีความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 31(1) มีอยู่ 2 กรณี คือ ขัดขืนไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของศาลที่ออกตามมาตรา 30 เพื่อรักษาความเรียบร้อยในบริเวณศาลกรณีหนึ่ง หรือประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลอีกกรณีหนึ่งเฉพาะในกรณีหลังนี้ เมื่อผู้เข้ามาในบริเวณศาลแล้วประพฤติตนไม่เรียบร้อยก็เป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล โดยศาลไม่จำต้องออกข้อกำหนดเสียก่อนการที่ผู้ถูกกล่าวหาพกพาอาวุธปืนพร้อมด้วยกระสุนปืนเข้ามาในบริเวณศาลถือได้ว่าเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล เป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล

ที่ผู้ถูกกล่าวหาขอให้รอการลงโทษนั้น เห็นได้ว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำไปโดยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อนคดีมีเหตุสมควรรอการลงโทษ

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี

Share