แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 และที่ 8 รู้ว่าถุงปุ๋ยจำนวน 7 ถุง ภายในบรรจุเฮโรอีนและได้ร่วมกันลำเลียงมาจากบ้านของ ส.ลงเรือเพื่อส่งให้กับเรือใหญ่ในน่านน้ำสากลเป็นความผิดฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย
จำเลยที่ 1 ถึงที่ 8 อยู่บนเรือพร้อมจะออกเดินทางสู่น่านน้ำสากลได้ทุกเมื่อ การที่จำเลยคนใดคนหนึ่งซึ่งอยู่บนเรือได้แกะเชือกที่หัวเรือออก เป็นการลงมือเพื่อส่งเฮโรอีนของกลางออกนอกราชอาณาจักรเพื่อจำหน่ายแล้ว จึงมีความผิดฐานพยายามส่งเฮโรอีนออกนอกราชอาณาจักรเพื่อจำหน่าย หาจำต้องให้เรือแล่นสู่น่านน้ำสากลเสียก่อนไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 65, 66, 102 พ.ร.บ. มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 มาตรา 3, 7, พ.ร.บ. คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 11, 12, 62, 64, 81, ป.อ. มาตรา 80, 83, 91 ริบเฮโรอีนของกลาง
จำเลยที่ 1 ถึงที่ 5 และจำเลยที่ 7 ถึงที่ 9 ให้การปฏิเสธ ส่วนจำเลยที่ 6 ให้การรับสารภาพฐานเป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย แต่ปฏิเสธในข้อหาความผิดฐานร่วมกันมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและพยายามส่งเฮโรอีนออกนอกราชอาณาจักรเพื่อจำหน่าย
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งเก้ามีความผิดฐานร่วมกันมียาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15, 66 วรรคสอง ป.อ. มาตรา 83 และมีความผิดฐานร่วมกันพยายามส่งออกนอกราชอาณาจักรเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15, 65 (ที่ถูก 65 วรรคสอง) ประกอบด้วย ป.อ. มาตรา 80, 83 เฉพาะจำเลยที่ 6 ยังมีความผิดฐานเป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านช่องทางตรวจคนเข้าเมืองและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ. คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 11, 62 วรรคหนึ่ง และ 81 อีก 2 กระทง ให้จำคุกระทงละ 4 เดือน ความผิดฐานมียาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและฐานพยายามส่งออกนอกราชอาณาจักรเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษจำเลยทั้งเก้าตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 และ 66 วรรคสอง ซึ่งเป็นบทหนัก ประหารชีวิต จำเลยที่ 1 ถึงที่ 8 ให้การชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตาม ป.อ. มาตรา 78 คนละหนึ่งในสาม ประกอบมาตรา 52 (1) คงจำคุกจำเลยที่ 1 ถึงที่ 8 ตลอดชีวิต สำหรับความผิดตาม พ.ร.บ. คนเข้าเมืองในส่วนจำเลยที่ 6 ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตาม ป.อ. มาตรา 78 กึ่งหนึ่ง คงจำคุกระทงละ 2 เดือน รวมจำคุก 4 เดือน แต่เมื่อลงโทษจำเลยที่ 6 จำคุกตลอดชีวิตแล้วจึงไม่อาจนำโทษ 2 กระทงหลังมารวมได้อีก ริบเฮโรอีนของกลาง คำขออื่นให้ยก
จำเลยที่ 1 ถึงที่ 5 ที่ 8 และที่ 9 อุทธรณ์ ส่วนจำเลยที่ 6 และที่ 7 ที่ไม่อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นส่งสำนวนมายังศาลอุทธรณ์ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 245
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 ที่ 8 และที่ 9 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า
ปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 ที่ 8 และที่ 9 ว่า จำเลยดังกล่าวได้ร่วมกับจำเลยที่ 5 ที่ 6 ที่ 7 ที่ไม่อุทธรณ์ ฎีกา มีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและพยายามส่งเฮโรอีนออกนอกราชอาณาจักรเพื่อจำหน่ายหรือไม่
กล่าวโดยสรุปพยานโจทก์ในส่วนที่เกี่ยวกับจำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 และที่ 8 มีทั้งพยานบุคคลซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ ที่ไม่มีสาเหตุโกรธเคียงกันมาก่อน กับพยานวัตถุซึ่งเป็นเฮโรอีนของกลางที่ยึดได้ในคราวเดียวกัน ทั้งคำรับสารภาพดังกล่าวย่อมรับฟังเป็นหลักฐานมั่นคงว่า จำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 และที่ 8 รู้ว่าถุงปุ๋ยจำนวน 7 ถุง ภายในบรรจุเฮโรอีนและได้ร่วมกันลำเลียงมาจากบ้านนายสังวาลย์ลงเรือเพื่อส่งให้กับเรือใหญ่ในน่านน้ำสากล จึงเป็นความผิดในฐานมีเฮโรอีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และที่จำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 และที่ 8 กับพวกอยู่บนเรือที่มีอุปกรณ์ สัมภาระและเสบียงอาหารเตรียมพร้อมครบถ้วนในการออกสู่น่านน้ำสากลนั้น จำเลยคนหนึ่งได้แกะเชือกที่หัวเรือจะออกเดินทางสู่น่านน้ำมีเป้าหมายจะนำเฮโรอีนของกลางส่งให้กับเรือใหญ่ที่น่านน้ำสากล ข้อนี้จำเลยที่ 9 ฎีกาว่า สถานที่เกิดเหตุอยู่จังหวัดเพชรบุรี การเดินเรือจะต้องออกสู่อ่าวไทยเพื่อสู่น่านน้ำสากล ลูกเรือเพียงแต่แก้เชือกเพื่อเตรียมพร้อมออกเรือแต่ถูกจับเสียก่อน ลูกเรืออาจจะเปลี่ยนใจนำสิ่งของไปส่งที่จังหวัดหนึ่งจังหวัดใดในเขตราชอาณาจักรไทยก็ได้ หรือเมื่อออกเรือแล้วอาจพบกับพายุลงแรงไม่ออกนอกราชอาณาจักรไทยก็ได้เช่นกัน การกระทำจึงไม่เกิดความผิดสำเร็จ เป็นเพียงขั้นตระเตรียมการไม่เข้าขั้นพยายามกระทำความผิด เห็นว่า จำเลยที่ 1 ถึงที่ 8 อยู่บนเรือพร้อมจะออกเดินทางได้ทุกเมือ การที่จำเลยคนใดคนหนึ่งซึ่งอยู่บนเรือได้แกะเชือกที่หัวเรือออก เป็นการลงมือเพื่อส่งเฮโรอีนของกลางออกนอกราชอาณาจักรเพื่อจำหน่ายแล้ว จึงมีความผิดฐานพยายามส่งเฮโรอีนออกนอกราชอาณาจักรเพื่อจำหน่าย หาจำต้องให้เรือแล่นสู่น่านน้ำสากลเสียก่อนไม่
พิพากษายืน.