แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
หลังจากเจ้ามรดกตาย โจทก์จำเลยซึ่งเป็นทายาทได้ตกลงเรื่องทรัพย์มรดกโดยให้ขายที่ดินบางส่วนนำเงินมาทำศพเจ้ามรดกนอกจากนี้บุตรโจทก์ก็ได้เข้าไปไถที่นามรดก ถือได้ว่าโจทก์ได้ร่วมครอบครองทรัพย์มรดกกับจำเลย โดยยังมิได้แบ่งปันทรัพย์มรดกกันเป็นสัดส่วน แม้โจทก์ฟ้องคดีเกิน 1 ปี นับแต่เจ้ามรดกตาย คดีโจทก์ก็ไม่ขาดอายุความ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นมารดาของนางชีพ นางชีพเป็นภรรยาของจำเลย เมื่อนางชีพแต่งงานกับจำเลย โจทก์ได้ยกทรัพย์สินรวมราคาประมาณ ๔๔,๐๐๐ บาท และนางชีพกับจำเลยมีสินสมรสรวมราคาประมาณ ๕๐,๐๐๐ บาท ต่อมานางชีพถึงแก่ความตายโดยไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ ทรัพย์ที่โจทก์ยกให้นางชีพโจทก์มีสิทธิได้ครึ่งหนึ่ง ส่วนสินสมรสตกเป็นของจำเลย ๑ ส่วน และเป็นมรดกที่จะต้องแบ่งให้แก่โจทก์จำเลยคนละครึ่งอีก ๑ ส่วน โจทก์จึงมีสิทธิได้รับมรดกของนางชีพทั้งสิ้น ๓๔,๕๐๐ บาทโจทก์จำเลยต่างครอบครองทรัพย์มรดกร่วมกันตลอดมา ขอให้จำเลยแบ่งทรัพย์มรดกดังกล่าวให้โจทก์
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความมรดก ทั้งจำเลยครอบครองทรัพย์มรดกแต่ผู้เดียว โจทก์ไม่ได้ครอบครองด้วย และยังมีที่ดินสินเดิมของนางชีพอีก ๑ แปลง โจทก์ไม่ได้กล่าวมาในฟ้องซึ่งจำเลยกับนางชีพร่วมกันครอบครองโดยสงบเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของมาเป็นเวลา ๒๘ ปีแล้ว จึงเป็นกองมรดกจะต้องแบ่งให้จำเลยครึ่งหนึ่ง ขอให้โจทก์แบ่งที่ดินดังกล่าวให้จำเลยด้วย
โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า ที่ดินที่จำเลยอ้างเป็นของโจทก์จำเลยและนางชีพปลูกบ้านโดยโจทก์ยินยอมอนุญาต ขอให้ยกฟ้องแย้ง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยแบ่งทรัพย์มรดกให้แก่โจทก์ตามฟ้องโดยก่อนแบ่งให้หักค่าใช้จ่ายในการทำศพให้จำเลย ๒๐,๐๐๐ บาท ออกเสียก่อน ที่เหลือจึงให้แบ่งกันตามส่วน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในปัญหาที่ว่าโจทก์นำคดีมาฟ้องเมื่อพ้นกำหนด ๑ ปี นับแต่เจ้ามรดกตาย คดีโจทก์ขาดอายุความหรือไม่นั้นข้อเท็จจริงฟังได้จากพยานโจทก์ว่า ก่อนทำศพนางชีพ โจทก์จำเลยได้ไปตกลงกันเรื่องทรัพย์มรดกของนางชีพที่บ้านนายพิมพ์ โดยให้ขายที่ดินบางส่วนของผู้ตายนำเงินมาทำศพ ที่ดินบางแปลงจำเลยจะคืนให้โจทก์ และจำเลยจะรื้อถอนเรือนไปจากที่ดินโจทก์โดยโจทก์จะให้ค่ารื้อถอน ส่วนพยานจำเลยก็เบิกความเจือสมข้ออ้างของโจทก์ที่ว่าโจทก์จำเลยได้ตกลงกันให้จำเลยขายที่ดินมรดกบางส่วนเพื่อใช้ในงานศพนางชีพ นอกจากนี้หลังจากนางชีพตายบุตรโจทก์ได้เข้าไปไถที่นามรดกพฤติการณ์ตามที่โจทก์นำสืบถือได้ว่าโจทก์จำเลยครอบครองทรัพย์มรดกของนางชีพร่วมกันตลอดมาและยังไม่ได้แบ่งปันทรัพย์มรดกกันเป็นสัดส่วน แม้โจทก์ฟ้องคดีเกิน ๑ ปี นับแต่เจ้ามรดกตาย คดีโจทก์ก็ไม่ขาดอายุความ
พิพากษายืน.