คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 424/2501

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เงินสินสมรสที่คู่ความตกลงกันและนำมาวางศาลในระหว่างพิจารณานั้น เมื่อคดีถึงที่สุดตรงตามที่คู่ความตกลงกันไว้ การรับเงินที่วางไว้จะนำมารวมกันแล้วแบ่งไม่ได้ จะต้องให้คู่ความแต่ละฝ่าย รับเงินส่วนที่อีกฝ่ายหนึ่งนำมาวางไว้ไปจึงจะชอบ

ย่อยาว

คดีนี้เป็นเรื่องขอแบ่งทรัพย์ขั้นบังคับคดีตามคำพิพากษาศาลฎีกา ซึ่งคำพิพากษาตอนหนึ่งว่า ทรัพย์ตามบัญชี ค.อันดับ ๑-๒ คือสวนกับบ้านเป็นสินสมรส ได้แก่โจทก์ ๑ ใน ๓ ส่วน ได้แก่จำเลย ๒ ใน ๓ ส่วน ที่สวนกับบ้านนี้ระหว่างการพิจารณาในศาลชั้นต้น โจทก์จำเลยตกลงให้ประมูลที่สวนระหว่างโจทก์จำเลย ถ้าจำเลยประมูลได้ให้นำค่าเช่าวางศาล ๑ ใน ๓ ถ้าโจทก์ประมูลได้ให้นำค่าเช่าวางศาล ๒ ใน ๓ ที่สวนจำเลยประมูลได้เป็นค่าเช่าปีละ ๑,๗๐๐ บาท วางเงินค่าเช่าปีละ ๕๖๗ บาท โจทก์วางค่าเช่าบ้านเดือนละ ๓๑.๕๐ บาท ในเรื่องค่าเช่าที่วางศาลไว้นี้ โจทก์จำเลยโต้เถียงกันในเรื่องแบ่งว่า จะแบ่งกันอย่างไร
ศาลแพ่งมีคำสั่งให้เอาค่าเช่าที่สวนและบ้านรวมกัน แล้วแบ่งให้โจทก์ ๑ ส่วน จำเลย ๒ ส่วน
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้
จำเลยฎีกาศาลฎีกาพิพากษายืนโดยวินิจฉัยว่า เรื่องนี้ศาลพิพากษาให้โจทก์ได้ส่วนในทรัพย์พิพาท ๑ ใน ๓ จำเลยได้ ๒ ใน ๓ และคู่ความตกลงกันให้โจทก์นำค่าเช่ามาวาง ๒ ใน ๓ จำเลยมาวาง ๑ ใน ๓ ตรงกับส่วนในคำพิพากษา จึงให้โจทก์รับเงินค่าเช่าสวนที่จำเลยวาง และให้จำเลยรับเงินค่าเช่าบ้านที่โจทก์วาง

Share