แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
จำเลยได้แต่งตั้ง ล. เป็นทนายความดำเนินการในชั้นบังคับคดีจำเลยมิได้กล่าวอ้างว่าใบแต่งทนายไม่ถูกต้อง การที่จำเลยแต่งตั้งทนายความให้ว่าต่างและดำเนินกระบวนพิจารณาแทนตน จำเลยก็จะต้องรับผิดชอบในการกระทำของทนายความที่ตนแต่งตั้ง จำเลยจะอ้างว่าทนายของตนดำเนินกระบวนพิจารณาในชั้นบังคับคดีคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงหรือไม่ตรงกับความเป็นจริงโดยจำเลยไม่ทราบเรื่องหาได้ไม่หากทนายจำเลยดำเนินคดีผิดพลาดประการใด ย่อมต้องถือว่าเป็นความผิดพลาดของจำเลยด้วย จำเลยจึงไม่อาจร้องขอให้ศาลเพิกถอนคำคู่ความและกระบวนพิจารณาในชั้นบังคับคดีที่ ล. กระทำไปแล้วได้
ย่อยาว
คดีนี้สืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกไปจากที่ดินและสิ่งปลูกสร้างส่วนที่รุกล้ำเข้าไปในที่ดินของโจทก์ และให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ จำเลยอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา ศาลฎีกาพิพากษายืน โจทก์ยื่นคำขอต่อศาลชั้นต้นให้ออกหมายบังคับคดี ศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดีโจทก์ได้นำเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดี
ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งถอนคำคู่ความฝ่ายจำเลยและกระบวนพิจารณาในชั้นบังคับคดีทั้งหมดที่ทนายจำเลยกระทำไป เนื่องจากมีข้อเท็จจริงที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงศาลชั้นต้นสั่งว่าพิจารณาแล้วไม่มีเหตุจะเพิกถอนการดำเนินกระบวนพิจารณาในชั้นบังคับคดี ยกคำร้อง จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 2พิพากษายืน จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ได้ความว่าจำเลยได้แต่งตั้งนายเลิศสิริ พิมพา เป็นทนายความดำเนินการในชั้นบังคับคดี โดยระบุไว้ในใบแต่งทนายความด้วยว่า ให้มีอำนาจใช้สิทธิหรือสละสิทธิในการอุทธรณ์ฎีกา ถอนฟ้องประนีประนอมยอมความ ยอมรับตามที่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งเรียกร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ ปรากฏตามใบแต่งที่ทนายจำเลยฉบับลงวันที่ 18 เมษายน 2531 จำเลยมิได้กล่าวอ้างว่าใบแต่งทนายดังกล่าวไม่ถูกต้องแต่อย่างใด คดีมีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า จำเลยจะร้องขอให้ศาลเพิกถอนคำคู่ความและกระบวนพิจารณาในชั้นบังคับคดีที่ทนายจำเลยกระทำไปแล้วได้หรือไม่ เห็นว่า การที่จำเลยแต่งตั้งทนายความให้ว่าต่างและดำเนินกระบวนพิจารณาแทนตน จำเลยก็จะต้องรับผิดชอบในการกระทำของทนายความที่ตนแต่งตั้ง จำเลยจะอ้างว่าทนายของตนดำเนินกระบวนพิจารณาในชั้นบังคับคดีคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงหรือไม่ตรงกับความเป็นจริงโดยจำเลยไม่ทราบเรื่องหาได้ไม่ หากทนายจำเลยดำเนินคดีผิดพลาดประการใด ย่อมต้องถือว่าเป็นความผิดพลาดของจำเลยด้วย กับทั้งเมื่อได้ตรวจสำนวนในชั้นบังคับคดีแล้ว ก็ไม่ปรากฏว่าทนายจำเลยได้ดำเนินกระบวนพิจารณาเกินกว่าอำนาจและหน้าที่แต่อย่างใด ส่วนเรื่องที่จำเลยอ้างว่า จำเลยกำลังดำเนินการเพื่อจะให้มีการจดทะเบียนภาระจำยอมเกี่ยวกับสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำเข้ามาในที่ดินของโจทก์นั้นไม่เกี่ยวกับสิทธิของโจทก์ที่จะบังคับคดีในคดีเรื่องนี้ซึ่งถึงที่สุดและไม่เป็นเหตุที่จะถอนหรืองดการบังคับคดีในคดีเรื่องนี้ได้แล้วจำเลยจึงไม่อาจร้องขอให้เพิกถอนคำคู่ความและกระบวนพิจารณาที่ทนายจำเลยได้กระทำไปแล้ว ที่ศาลล่างทั้งสองให้ยกคำร้องของจำเลยมานั้นชอบแล้ว”
พิพากษายืน