คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2979/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงมาแล้วว่า จำเลยใช้เอกสารปลอมในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และลงโทษจำเลยยืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นจำเลยฎีกาว่ามิได้ใช้เอกสารปลอมในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนเป็นการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ซึ่งต้องห้ามศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
บัตรประจำตัวข้าราชการ เป็นเอกสารซึ่งเจ้าพนักงานได้ทำขึ้นในหน้าที่การปลอมเอกสารดังกล่าว เป็นการปลอมเอกสารราชการ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยปลอมบัตรประจำตัวข้าราชการขึ้นทั้งฉบับเพื่อแสดงว่าจำเลยมีหน้าที่ราชการในกรมประมวลข่าวกลาง สำนักนายกรัฐมนตรี และได้ใช้บัตรประจำตัวปลอมนั้น ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๖๔, ๒๖๕, ๒๖๘, ๓๒, ๓๓ และริบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๖๕ และมาตรา ๒๖๘ ลงโทษตามมาตรา ๒๖๘ จำคุก ๒ ปี คำเบิกความของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษ ๑ ใน ๓ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ จำคุก ๑ ปี ๔ เดือน ริบของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามที่จำเลยฎีกาว่าคดีนี้ไม่ปรากฏว่าการกระทำของจำเลยได้เกิดความเสียหายหรือน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน อันจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๖๘ นั้น เรื่องนี้ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงแล้วว่า จำเลยใช้เอกสารปลอมในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่พลโทบุญเรือน นายอนันต์ ผู้อื่น หรือประชาชน จำเลยจะฎีกาโต้เถียงข้อนี้ไม่ได้เพราะเป็นปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามมิให้ฎีกา ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย ส่วนฎีกาจำเลยที่ว่าการปลอมบัตรประจำตัวราชการ มิใช่เป็นการปลอมเอกสารราชการนั้น เห็นว่า บัตรประจำตัวข้าราชการเป็นเอกสารซึ่งเจ้าพนักงานได้ทำขึ้นในหน้าที่ การปลอมบัตรประจำตัวดังกล่าวจึงเป็นการปลอมเอกสารราชการ
พิพากษายืน.

Share