คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2973/2523

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2522 มาตรา 34, 87แต่ตามคำบรรยายฟ้องเป็นเรื่องกล่าวหาว่าจำเลยซึ่งสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรยื่นรายการค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นเท็จ และยืนยันความจริงว่าจำเลยมิได้ใช้จ่ายไปตามรายการที่แจ้งไว้เลยเพราะจำเลยไม่มีหลักฐานการจ่ายเงินมาแสดงต่อผู้ว่าราชการจังหวัดตามที่กฎหมายบังคับ จึงเป็นเรื่องที่โจทก์มุ่งประสงค์จะให้ลงโทษจำเลยในฐานที่จำเลยยื่นรายการค่าใช้จ่ายเป็นเท็จเท่านั้น เมื่อจำเลยไม่ยอมรับว่ารายการค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่ยื่นนั้นเป็นเท็จ และโจทก์ไม่นำสืบพยานหลักฐานให้เห็นเป็นอย่างอื่น จึงไม่พอฟังว่ารายการค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่จำเลยยื่นต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนั้นเป็นเท็จ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดศรีสะเกษ หลังจากการประกาศผลการเลือกตั้งแล้วจำเลยยื่นแสดงรายละเอียดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งต่อผู้ว่าราชการจังหวัดรวมสิบรายการเป็นเงิน 35,000 บาท อันเป็นเท็จความจริงจำเลยมิได้ใช้จ่ายไปตามรายการที่แจ้งนั้นแต่อย่างใด โดยจำเลยมิได้แจ้งแสดงหลักฐานการจ่ายเงินให้ปรากฏตามที่กฎหมายบังคับ ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 34, 87 และสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของจำเลยมีกำหนดห้าปี

จำเลยให้การปฏิเสธ

ชั้นพิจารณาคู่ความแถลงรับกันว่า จำเลยยื่นรายการแสดงค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งต่อผู้ว่าราชการจังหวัดโดยแต่ละรายการไม่มีหลักฐานใบสำคัญแนบมาด้วยแล้วคู่ความทั้งสองฝ่ายต่างแถลงไม่ติดใจสืบพยาน

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 34, 87 ลงโทษปรับ 2,000 บาทและให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนด 5 ปี

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ฟ้องของโจทก์เป็นเรื่องกล่าวหาว่าจำเลยซึ่งสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรยื่นรายการค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งรวมสิบรายการต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นเท็จ และยืนยันความจริงว่าจำเลยมิได้ใช้จ่ายไปตามรายการที่แจ้งไว้แต่ประการใดเลย เพราะจำเลยไม่มีหลักฐานการจ่ายเงินแสดงต่อผู้ว่าราชการจังหวัดตามที่กฎหมายบังคับ จึงเป็นเรื่องที่โจทก์มุ่งประสงค์จะให้ลงโทษจำเลยในฐานที่จำเลยยื่นรายการค่าใช้จ่ายเป็นเท็จเท่านั้น เมื่อจำเลยไม่ยอมรับว่ารายการค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งนั้นเป็นเท็จ และโจทก์ไม่นำสืบพยานหลักฐานให้เห็นเป็นอย่างอื่น จึงไม่พอฟังว่ารายการค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่จำเลยยื่นต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนั้นเป็นเท็จ

พิพากษายืน

Share