แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ได้รับอนุญาตจากทางการจังหวัดเชียงใหม่ให้ซ่อมสพานและงานดินในถนนสายจากอำเภอแม่แตงถึงอำเภอพร้าวซึ่งเป็นทางที่โจทก์ได้รับอนุญาตให้ใช้โดยเฉพาะ จำเลยได้ทำสัญญาจะช่วยเหลือในการซ่อมสพานและถนน โดยถืออัตรา 12,000 บาท ต่อรถยนต์ของจำเลย 1 คัน ซึ่งเดินรับส่งคนโดยสารในถนนสายนั้น ดังนี้ โจทก์หามีอำนาจเรียกเก็บจากจำเลยตามสัญญาได้ไม่ เพราะเอกชนไม่มีอำนาจปิดกั้นทางหลวงไม่ว่าประเภทใด มิให้บุคคลหรือยวดยานสัญจรไปมา แม้แต่ทางหลวงสัมปทานตาม พ.ร.บ. ทางหลวงสัมปทาน พ.ศ. 2473 มาตรา 30 และสัญญาระหว่างโจทก์จำเลยเช่นนี้ ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน ตาม ป.พ.พ. มาตรา 113.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้เข้าหุ้นส่วนกันเดินรถส่งคนโดยสาร จำเลยที่ ๑ ในฐานะผู้รับมอบจากจำเลยคนอื่น ๆ ได้ตกลงยอมให้เงินช่วยเหลือในการสร้างสพานและถนนจากอำเภอแม่แตง ถึงอำเภอพร้าว ซึ่งเป็นทางที่โจทก์ได้รับอนุญาตให้ใช้โดยเฉพาะ โดยจำเลยจะช่วยเหลือในอัตรา ๑๒,๐๐๐ บาท ต่อรถยนต์ของจำเลย ๑ คัน รวมเป็นเงิน ๒๔,๐๐๐ บาท เมื่อถึงกำหนดจำเลยไม่ชำระโจทก์จึงฟ้องขอบังคับให้จำเลยร่วมกันใช้เงินให้โจทก์
จำเลยต่อสู้ว่า เส้นทางนี้เป็นสาธารณะประโยชน์ โจทก์ไม่มีอำนาจเรียกเก็บเงินหรือค่าทำขวัญจากจำเลยเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน
ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานแล้ววินิจฉัยให้โจทก์ชนะคดี คดีมาสู่ศาลฎีกา ๆ พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาและพิพากษาใหม่
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยใช้เงินให้โจทก์ ๑๒,๐๐๐ บาท
โจทก์จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยใช้เงินให้โจทก์ ๒๔,๐๐๐ บาท
จำเลยที่ ๑ ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าขึ้นชื่อว่าทางหลวงไม่ว่าประเภทใด เอกชนหามีอำนาจปิดกั้นมิให้บุคคลหรือยวดยานสัญจรไปมา แม้แต่ทางหลวงสัมปทานตาม พ.ร.บ. ทางหลวงสัมปทาน พ.ศ. ๒๔๗๓ มาตรา ๓๐ การที่โจทก์ปิดทางมิให้จำเลยเดินรถ จึงหามีอำนาจปิดไม่และตามสัญญาระหว่างโจทก์จำเลยเป็นเรื่องจำเลยนำรถรับจ้างเข้ามาเดิน ๒ คัน ก็ยินยอมตามคำเรียกร้องของโจทก์ที่จะช่วยเหลือค่าซ่อมสำหรับรถยนต์คันหนึ่งคิด ๑๒,๐๐๐ บาท ต่อฤดูการเดินรถ ๑ ปี ดังนี้ เทียบได้เสมอจำเลยต้องเสียค่าเช่าหรือค่าผ่านทางให้โจทก์และตามฟ้องและตลอดจนสัญญาเห็นว่าเป็นการเรียกเอาเงินค่าเดินรถในทางแต่เลี่ยงพูดเป็นว่าช่วยเหลือค่าซ่อม สัญญาเช่นนั้น จึงขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน
พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ และมีผลระหว่างคู่ความทุกฝ่าย