แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลสั่งปรับนายประกันเพราะผู้ต้องหาไม่มาศาลตามนัดผู้รับมอบฉันทะให้นำโฉนดมายื่นต่อศาลและทำสัญญาประกันผู้ต้องหาแทนนายประกันไม่มีสิทธิยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลดังกล่าวเพราะไม่ได้รับมอบอำนาจให้ยื่นอุทธรณ์แทนนายประกัน
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2519 พนักงานสอบสวนยื่นคำร้องต่อศาลขอฝากขังนายภิรมย์ สว่างอารมณ์ ผู้ต้องหาข้อหาลักทรัพย์หรือรับของโจร และในวันฝากขังนางสาวอนงค์ ช่างประเสริฐได้มอบฉันทะให้นายวิรัช เฉลิมศรีนำโฉนดที่ดินมาประกันผู้ต้องหาแทน นายวิรัช เฉลิมศรีผู้รับมอบฉันทะจึงยื่นคำร้องขอให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาชั่วคราวในนามของนางสาวอนงค์ ช่างประเสริฐ โดยนายวิรัช เฉลิมศรีผู้รับมอบฉันทะผู้ขอประกัน ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ประกันโดยตีราคา 40,000 บาท
ครั้นวันที่ 3 กันยายน 2519 อันเป็นวันครบกำหนดฝากขังผู้ต้องหาไม่มาศาลนายวิรัช เฉลิมศรีได้ยื่นคำร้องขอผัดส่งตัวผู้ต้องหาหลายคราวแต่ส่งไม่ได้ ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งให้ปรับนายประกันตามสัญญา 40,000 บาท
นายวิรัช เฉลิมศรีอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์ของนายวิรัช เฉลิมศรี
นายวิรัช เฉลิมศรีฎีกา
ศาลฎีกาได้ตรวจสำนวนและประชุมปรึกษาแล้วเห็นว่า ตามใบมอบฉันทะฉบับลงวันที่ 24 สิงหาคม 2519 มีข้อความว่า นางสาวอนงค์ช่างประเสริฐผู้มอบฉันทะขอมอบฉันทะให้นายวิรัช เฉลิมศรีผู้รับมอบนำโฉนดเลขที่ 24659 ตำบลบ้านสวน อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี เฉพาะส่วนนำมาประกันผู้ต้องหาแทนนางสาวอนงค์ ช่างประเสริฐได้ และตามสัญญาประกันฉบับลงวันที่ 24 สิงหาคม 2519 ก็ปรากฏว่านางสาวอนงค์ช่างประเสริฐ โดยนายวิรัช เฉลิมศรีผู้รับมอบฉันทะเป็นผู้ทำสัญญาประกันนายภิรมย์ สว่างอารมณ์ให้ไว้ต่อศาล มีข้อความชัดแจ้งว่าในระหว่างประกันนายประกันหรือนายภิรมย์ สว่างอารมณ์ผู้ต้องหาจะปฏิบัติตามนัดหรือหมายเรียกของเจ้าพนักงานหรือศาล มิฉะนั้นนายประกันยอมรับผิดชอบใช้เงินเป็นจำนวนสี่หมื่นบาทให้แก่ศาลจนครบนั้น เป็นเรื่องที่นางสาวอนงค์ช่างประเสริฐเป็นนายประกัน โดยมอบให้นายวิรัช เฉลิมศรีนำโฉนดมายื่นต่อศาลและเป็นผู้ทำสัญญาประกันตัวผู้ต้องหาแทนเท่านั้น นายวิรัช เฉลิมศรีไม่ได้รับมอบอำนาจให้ยื่นอุทธรณ์แทนนายประกัน ฉะนั้นที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่านายวิรัช เฉลิมศรีไม่มีสิทธิยื่นอุทธรณ์แทนนายประกันจึงเป็นการชอบแล้ว ฎีกาของนายวิรัช เฉลิมศรีฟังไม่ขึ้น
พิพากษายกฎีกาของนายวิรัช เฉลิมศรี