คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2948/2535

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ข. ขับรถยนต์โดยประมาทชนรถยนต์ของโจทก์เสียหาย จึงมีหนี้ที่ ข. ต้องชำระต่อโจทก์ จำเลยซึ่งเป็นบุคคลภายนอกขอเข้ามาชำระหนี้แทน ข. และโจทก์ก็ตกลงด้วยโดยทำเป็นบันทึกกันไว้แม้เอกสารดังกล่าวจะไม่ใช่หนังสือรับสภาพหนี้แต่ก็เป็นสัญญาประเภทหนึ่งซึ่งคู่ความกระทำด้วยความสมัครใจ เมื่อไม่เป็นการขืนใจลูกหนี้และไม่ขัดต่อกฎหมายย่อมสมบูรณ์ใช้บังคับได้ จึงมีผลตามกฎหมายผูกพันจำเลยให้ต้องรับผิดต่อโจทก์.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของรถยนต์หมายเลขทะเบียน7จ-2503 กรุงเทพมหานคร นางสาวขันทอง มณีชม ขับรถยนต์หมายเลขทะเบียน 5ค-4558 กรุงเทพมหานคร โดยประมาทชนรถยนต์ของโจทก์ได้รับความเสียหาย จำเลยตกลงยอมรับผิดชดใช้มูลหนี้ละเมิดที่นางสาวขันทองก่อขึ้นดังกล่าว โดยจะซ่อมรถยนต์ของโจทก์ที่เสียหายให้กลับอยู่ในสภาพเดิมตามรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 4 แต่แล้วจำเลยไม่ปฏิบัติตามข้อสัญญา โจทก์จึงนำรถยนต์ดังกล่าวไปซ่อมเอง เสียค่าแรง ค่าเคาะค่าพ่นสี ค่าอะไหล่ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 16,000 บาท ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า เอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 4 เจ้าพนักงานตำรวจทำขึ้นโดยจำเลยมิได้ยินยอม จำเลยลงชื่อในฐานะพยานเท่านั้นจึงไม่ต้องรับผิด ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 3พิพากษากลับ ให้จำเลยใช้เงินพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีประเด็นต้องวินิจฉัยในปัญหาข้อกฎหมายตามฎีกาของจำเลยว่า ข้อความที่ปรากฏในเอกสารหมาย จ.3มีผลตามกฎหมายที่จะผูกพันจำเลยหรือไม่ ซึ่งศาลฎีกาจำต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยมา ซึ่งศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นฟังและรับกันว่านางสาวขันทองมณีชม ขับรถยนต์หมายเลขทะเบียน 5ค-4558 กรุงเทพมหานคร โดยประมาทชนกับรถของโจทก์หมายเลขทะเบียน 7จ-2503 กรุงเทพมหานครเจ้าพนักงานเปรียบเทียบปรับนางสาวขันทอง มณีชม และทำบันทึกตกลงทางแพ่งไว้ตามเอกสารหมาย จ.3 ว่า นายวิศาล แก้วประจุจำเลยขอรับชดใช้ในมูลละเมิดทั้งหมด รับชดใช้ซ่อมรถยนต์หมายเลขทะเบียน 7จ-2503 กรุงเทพมหานคร และรถยนต์หมายเลขทะเบียน5ค-4558 กรุงเทพมหานคร ให้อยู่ในสภาพเดิมทุกประการ ศาลฎีกาเห็นว่า นางสาวขันทอง มณีชม มีหนี้ที่ต้องชำระต่อโจทก์ และจำเลยซึ่งเป็นบุคคลภายนอกขอเข้ามาชำระหนี้แทนนางสาวขันทอง มณีชมลูกหนี้ และโจทก์ก็ตกลงด้วยตามเอกสารหมาย จ.3 แม้เอกสารดังกล่าวจะไม่ใช่หนังสือรับสภาพหนี้แต่เป็นสัญญาประเภทหนึ่งซึ่งคู่ความกระทำด้วยความสมัครใจ เมื่อไม่ปรากฏว่าเป็นการขืนใจลูกหนี้และไม่ขัดต่อกฎหมายย่อมสมบูรณ์ใช้บังคับได้ เอกสารหมาย จ.3จึงมีผลตามกฎหมายผูกพันจำเลยให้ต้องรับผิด ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3พิพากษามานั้นชอบแล้ว”
พิพากษายืน

Share