คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2945/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามพินัยกรรมมีข้อความให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรม ไม่มีข้อความใดจำกัดห้ามมิให้ผู้ร้องจัดการมิให้ผู้ร้องจัดการมรดกของผู้ตายที่ไม่ได้ระบุไว้ในพินัยกรรม เมื่อพินัยกรรมตั้งผู้ร้องเป็นจัดการมรดกโดยมิได้จำกัดอำนาจที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายทั้งหมดจึงชอบแล้ว ตามคำร้องขอได้แสดงเหตุขัดข้องในการจัดการมรดก คำคัดค้านก็มิได้โต้เถียงว่าไม่มีเหตุขัดข้องในการจัดการมรดก และยังขอตั้งเองเป็นผู้จัดการมรดก แสดงว่ายอมรับว่ามีเหตุขัดข้องในการจัดการมรดก ประเด็นเรื่องเหตุขัดข้องในการจัดการมรดกจึงไม่มี ผู้ร้องไม่ต้องนำสืบถึงเหตุขัดข้องในการจัดการมรดกอีก พินัยกรรมระบุให้ตัดญาติพี่น้องออกจากกองมรดกทั้งหมดซึ่งหมายถึงตัวผู้คัดค้านด้วย ผู้คัดค้านจึงไม่อยู่ในฐานะทายาทที่จะยื่นคำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดก

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอว่า นางละม่อม ผ่องสุวรรณ์ ถึงแก่ความตาย เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2533 มีทรัพย์มรดกคิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 8,000,000 บาทเศษ ผู้ตายทำพินัยกรรมตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดก ผู้ร้องไปขอจัดการโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์มรดกตามคำสั่งในพินัยกรรมแล้วแต่มีเหตุขัดข้อง ผู้ร้องไม่เป็นบุคคลต้องห้ามตามกฎหมายมิให้เป็นผู้จัดการมรดก ขอให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของนางละม่อม ผ่องสุวรรณ์ ผู้ตาย
ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่า ผู้คัดค้านเป็นพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกับผู้ตาย บิดามารดาถึงแก่ความตายไปก่อนนานแล้วปัจจุบันพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันคงเหลือผู้คัดค้านและนายศิริ เศวตมาลย์ ผู้ตาย สมรสกับนายกุล เศวตมาลย์ไม่มีบุตรด้วยกัน นายกุลถึงแก่ความตายไปก่อน ปัจจุบันทายาทโดยธรรมจึงเหลือผู้คัดค้านกับนายศิริ ผู้ตายทำพินัยกรรมทรัพย์มรดกบางส่วนให้แก่บุคคลที่ระบุไว้ แต่ยังคงเหลือทรัพย์สินอีกหลายรายการที่พินัยกรรมไม่ได้ระบุว่ายกให้แก่ผู้ใดคือทรัพย์ตามบัญชีทรัพย์ท้ายคำร้องหมายเลข 4 อันดับ 10 และอันดับ 12 ถึงอันดับ 26ทรัพย์มรดกดังกล่าวจึงตกได้แก่ผู้คัดค้านกับนายศิริซึ่งเป็นทายาทโดยธรรม ผู้ร้องร้องขอจัดการมรดกของผู้ตายทั้งหมดจึงไม่ชอบเพราะไม่ใช่ทายาทโดยธรรม นายศิริให้ผู้คัดค้านร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายในส่วนที่นอกเหนือจากที่ระบุไว้ในพินัยกรรม ผู้คัดค้านไม่เป็นบุคคลต้องห้ามตามกฎหมายมิให้เป็นผู้จัดการมรดก ขอให้ตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกในส่วนนอกเหนือจากที่ระบุไว้ในพินัยกรรม
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของนางละม่อมผ่องสุวรรณ์ ผู้ตาย ให้มีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย ยกคำร้องของผู้คัดค้าน
ผู้คัดค้านอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้คัดค้านฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พิเคราะห์แล้ว ที่ผู้คัดค้านฎีกาว่าตามพินัยกรรมประสงค์ให้ผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกแต่เฉพาะทรัพย์ที่ระบุไว้ในพินัยกรรมเท่านั้น ผู้ร้องมิได้เป็นทายาทโดยธรรมของผู้ตาย ย่อมไม่มีสิทธิที่จะจัดการทรัพย์มรดกที่ไม่ได้ระบุไว้ในพินัยกรรม ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้งให้ผู้ร้องเป็นผู้จัดการทรัพย์มรดกของผู้ตายทั้งหมด ขัดกับคำสั่งของผู้ตายเป็นการไม่ชอบนั้น เห็นว่า พินัยกรรมข้อ 6 มีข้อความว่า “ข้าพเจ้าของตั้งให้นายกรกช จิตตพล (ผู้ร้อง) เป็นผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรมนั้นด้วย” ตามพินัยกรรมดังกล่าวไม่มีข้อความตอนใดจำกัดห้ามมิให้ผู้ร้องจัดการมรดกของผู้ตายที่ไม่ได้ระบุไว้ในพินัยกรรมแต่อย่างใดเมื่อพินัยกรรมตั้งให้ผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายไว้โดยมิได้จำกัดอำนายเช่นนี้ การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้งให้ผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายทั้งหมด จึงเป็นการชอบแล้ว หาเป็นการขัดกับคำสั่งของผู้ตายไม่ ฎีกาของผู้คัดค้านในข้อนี้ฟังไม่ขึ้น
ที่ผู้คัดค้านฎีกาว่า ตามทางนำสืบของผู้ร้องไม่ปรากฏว่าผู้ร้องมีเหตุขัดข้องในการจัดการมรดกของผู้ตายอย่างไร ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิมายื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งตั้งให้ผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย ที่ศาลมีคำสั่งตั้งให้ผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายไม่ชอบนั้น เห็นว่า คดีนี้ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายอ้างว่าผู้ร้องไปขอจัดการโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์มรดกตามคำสั่งในพินัยกรรมแล้วแต่มีเหตุขัดข้อง คำร้องของผู้ร้องได้บรรยายเหตุจำเป็นที่จะต้องตั้งผู้จัดการมรดกไว้แล้ว เมื่อผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านเข้ามาประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 188(4) บังคับให้ต้องดำเนินคดีไปตามบทบัญญัติว่าด้วยคดีอันมีข้อพิพาท ตามคำคัดค้านของผู้คัดค้าน ก็ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้โต้เถียงว่าไม่มีเหตุขัดข้องในการจัดการมรดกและผู้คัดค้านยังได้ขอให้ตั้งตนเองเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายด้วย แสดงว่าผู้คัดค้านได้ยอมรับแล้วว่ามีเหตุขัดข้องในการจัดการมรดกของผู้ตาย ประเด็นเรื่องเหตุขัดข้องในการจัดการมรดกจึงไม่มี ผู้ร้องจึงไม่ต้องนำสืบถึงเหตุขัดข้องในการจัดการมรดกของผู้ตายอีก เมื่อพินัยกรรมกำหนดให้ผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย และผู้ร้องไม่เป็นบุคคลต้องห้ามตามกฎหมายมิให้เป็นผู้จัดการมรดก ศาลจึงมีคำสั่งตั้งให้ผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายได้ คำสั่งของศาลชั้นต้นชอบแล้วฎีกาของผู้คัดค้านข้อนี้ฟังไม่ขึ้น
ที่ผู้คัดค้านฎีกาขอให้ศาลมีคำสั่งตั้งให้ผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกที่ไม่ได้ระบุไว้ในพินัยกรรมของผู้ตายนั้น เห็นว่า ตามพินัยกรรมข้อ 7 มีข้อความระบุว่า “ญาติพี่น้องข้าพเจ้าไม่มีสิทธิในมรดกนี้ ข้าพเจ้าขอตัดออกจากกองมรดกทั้งหมดของข้าพเจ้าด้วย”ผู้คัดค้านเองก็เบิกความตอบคำถามค้านของทนายผู้ร้องรับว่าคำว่า “ญาติพี่น้อง” ในพินัยกรรมดังกล่าวหมายถึงตัวผู้คัดค้านและนายศิริเมื่อข้อความในพินัยกรรมระบุไว้ชัดแจ้งว่า ผู้ตายขอตัดญาติพี่น้องออกจากกองมรดกทั้งหมดของผู้ตาย ผู้คัดค้านจึงไม่อยู่ในฐานะทายาทที่จะมายื่นคำร้องขอตั้งเป็นผู้จัดการมรดกตามความหมายในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำสั่งศาลชั้นต้นให้ยกคำร้องของผู้คัดค้านนั้นชอบแล้ว ฎีกาของผู้คัดค้านข้อนี้ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share