คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 294/2508

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ตายเมาสุรามาชวนจำเลยถึงบ้านเพื่อจะให้ไปดื่มสุราด้วยกันครั้นจำเลยไม่ไปและหลบขึ้นมาเสียบนเรือนผู้ตายยังตามขึ้นมารังควานโดยกระชากแขนอีกเมื่อจำเลยขัดขืนผู้ตายก็เข้าปลุกปล้ำจนจำเลยทนไม่ได้จึงฟันเอาเช่นนี้ จำเลยกระทำโดยบันดาลโทสะเพราะถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมตามมาตรา 72

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจใช้มีดโต้ฟันนายหลู่ถูกที่ศีรษะถึงแก่ความตายโดยมีเจตนาฆ่า ขอให้ลงโทษตามมาตรา 288 และริบมีดของกลาง

จำเลยให้การรับว่าฟันผู้ตายจริง เพราะผู้ตายบุกรุกขึ้นมาชกต่อยจำเลยบนเรือน

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยผิดตามมาตรา 288 จำคุก 15 ปี ลดโทษ 1 ใน 3 ตามมาตรา 78 คงจำคุก 10 ปี ริบของกลาง

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยผิดตามมาตรา 290 ประกอบด้วยมาตรา 72 จำคุก 3 ปี

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า มูลเหตุที่จำเลยจะฟันผู้ตายก็เพราะผู้ตายเมาสุรา มาชวนจำเลยถึงบ้านเพื่อจะให้ไปดื่มสุราด้วยกัน ครั้นจำเลยไม่ไปและหลบขึ้นเสียบนเรือน ผู้ตายยังตามขึ้นมารังควานโดยกระชากแขนอีก เมื่อจำเลยขัดขืน ผู้ตายก็เข้าปลุกปล้ำจนจำเลยทนไม่ได้จึงฟันเอา เช่นนี้เห็นว่า จำเลยกระทำโดยบันดาลโทสะเพราะถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมตามมาตรา 72แห่งประมวลกฎหมายอาญา แต่พิเคราะห์ตามขนาดความกว้างยาวของมีดแม้จำเลยฟันทีเดียว แต่ฟันตรงกลางศีรษะเป็นบาดแผลจดเหนือหูขวายาว 4 นิ้วครึ่ง กว้าง 2 นิ้ว ลึกถึงกระโหลกศีรษะทะลุมันสมองผู้ตายถึงแก่ความตายเพราะพิษบาดแผลในวันรุ่งขึ้น จำเลยต้องมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตามมาตรา 288 พิพากษาแก้ว่าจำเลยผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 และ 72 จำคุก 5 ปี ริบของกลาง

Share