คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2936/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำบรรยายฟ้องของโจทก์แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งการกระทำของจำเลยเฉพาะการนอนกอดกับภริยาโจทก์ แต่ที่ว่าจำเลยยังลักลอบเล่นชู้กับภริยาโจทก์เรื่อยมา จนในที่สุดได้พาภริยาโจทก์ไปอยู่กับจำเลยนั้น ฟ้องโจทก์ไม่ได้แสดงโดยแจ้งชัดพอที่จะถือเป็นข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหา จึงต้องถือว่าโจทก์มุ่งประสงค์จะเรียกค่าทดแทนจากจำเลยสำหรับการที่จำเลยไปนอนกอดกันกับภริยาโจทก์เป็นหลัก
การนอนกอดกันกับภริยาของผู้อื่นเพราะรักใคร่กันในทางชู้สาว หรือกระทำถึงขั้นร่วมประเวณีกับภริยาของผู้อื่น ก็ล้วนแต่ต้องถือว่าได้ล่วงเกินภริยาของเขาไปในทำนองชู้สาวทั้งสิ้น โจทก์มีสิทธิฟ้องเรียกค่าทดแทนจากจำเลยได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1523วรรคสอง (ที่ได้ตรวจชำระใหม่)(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1113/2514 วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า นางจันทนาภริยาโจทก์ได้ติดต่อกับจำเลยในเชิงชู้สาวและได้นอนกอดกับจำเลยบนเบาะรถยนต์สองแถว โจทก์ได้ขอร้องจำเลยไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับภริยาโจทก์แล้ว จำเลยไม่เชื่อฟัง ยังลอบเล่นชู้กับภริยาโจทก์เรื่อยมา ในที่สุดได้พาภริยาโจทก์ไปอยู่กับจำเลยจนบัดนี้ ขอให้จำเลยใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ 50,000 บาทพร้อมดอกเบี้ย

จำเลยให้การและแก้ไขคำให้การว่า จำเลยรู้จักกับนางจันทนาภริยาโจทก์มาก่อนสมรสกับโจทก์ ภายหลังทราบว่าโจทก์กับนางจันทนาสมรสกันแต่ได้เลิกกันแล้วจำเลยรู้จักสนิทสนมกับนางจันทนาในฐานะที่ต่างเป็นคนขับรถสองแถวด้วยกัน คบกันโดยเปิดเผยมิได้ลักลอบเล่นชู้ คืนเกิดเหตุจำเลยนั่งรออยู่ในรถกับนางจันทนา มิได้นอนกอดกัน โจทก์ไม่ได้รับความเสียหาย โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง เพราะโจทก์ฟ้องเรียกค่าทดแทนจากจำเลยเนื่องจากจำเลยลักลอบเล่นชู้กับนางจันทนา ในขณะที่นางจันทนากับโจทก์ยังเป็นสามีภริยากันอยู่ ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าทดแทนจากจำเลยตามมาตรา 1523 วรรคแรก เพราะยังไม่ได้ฟ้องหย่า และศาลก็มิได้พิพากษาให้หย่าขาดจากนางจันทนา แต่มีสิทธิฟ้องเรียกค่าทดแทนจากจำเลยได้ตามวรรคสอง พิพากษาให้จำเลยใช้ค่าทดแทนแก่โจทก์เป็นเงิน 10,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์นั้นแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งการกระทำของจำเลยเฉพาะการนอนกอดกันกับภริยาโจทก์ ส่วนในตอนต่อไปที่ว่าจำเลยยังลักลอบเล่นชู้กับภริยาโจทก์เรื่อยมา จนในที่สุดได้พาภริยาโจทก์ไปอยู่กับจำเลยนั้น ฟ้องโจทก์ไม่ได้แสดงโดยแจ้งชัดพอที่จะถือเป็นข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหา จึงต้องถือว่าโจทก์มุ่งประสงค์จะเรียกค่าทดแทนจากจำเลยสำหรับการที่จำเลยไปนอนกอดกันกับภริยาโจทก์เป็นหลักศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงตรงตามฟ้องแล้วว่า จำเลยไปนอนกอดกันกับภริยาโจทก์จริง และยังฟังว่าก่อนที่จะไปนอนกอดกันนั้นจำเลยได้ร่วมประเวณีกับภริยาโจทก์ด้วย แล้วศาลอุทธรณ์ถือว่า จำเลยได้ล่วงเกินภริยาโจทก์ในทำนองชู้สาวและโจทก์มีอำนาจฟ้องเรียกค่าทดแทนจากจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1523 (ที่ได้ตรวจชำระใหม่) วรรคสอง ศาลฎีกาเห็นว่า การนอนกอดกันกับภริยาของผู้อื่นเพราะรักใคร่กันในทางชู้สาว หรือกระทำถึงขั้นร่วมประเวณีกับภริยาของผู้อื่น ก็ล้วนแต่ต้องถือว่าได้ล่วงเกินภริยาของเขาไปในทำนองชู้สาวทั้งสิ้น ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยได้ล่วงเกินภริยาของโจทก์ในทำนองชู้สาว และโจทก์มีสิทธิฟ้องเรียกค่าทดแทนจากจำเลยได้ตามมาตรา 1523 วรรคสองนั้น จึงเป็นการชอบแล้ว ทั้งนี้ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 1113/2514 ระหว่าง นายแสวง บุญชื่น โจทก์ เรือเอกบุญเลื่อนซุ่นทรัพย์ จำเลย และคำพิพากษาฎีกาที่ 2791/2515 ระหว่าง หม่อมราชวงศ์ประสาท ชุมพล โจทก์ นายวิบูลย์ บูรณะหิรัญ จำเลย

พิพากษายืน

Share