คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2935/2523

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ข้อที่จำเลยที่ 1 ฎีกาว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเพราะมิได้มีการสอบสวนในความผิดที่ฟ้องจำเลยนั้นเป็นข้อที่จำเลยเพิ่งมาคัดค้านขึ้นในชั้นอุทธรณ์และฎีกาทั้งโจทก์ก็ได้บรรยายฟ้องแล้วว่ามีการสอบสวน และตามสำนวนก็ไม่มีข้อเท็จจริงใด ที่แสดงว่าการสอบสวนนั้นไม่ชอบย่อมไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะวินิจฉัยให้

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่ 1 มีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2465 มาตรา 20 ทวิ จำคุก 5 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยที่ 1 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “จำเลยที่ 1 ฎีกาปัญหาข้อกฎหมายว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเพราะมิได้มีการสอบสวนในความผิดที่ฟ้องจำเลย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 120 ศาลฎีกา เห็นว่า โจทก์บรรยายฟ้องว่าคดีนี้พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอปากช่อง ได้สอบสวนแล้ว ซึ่งจำเลยที่ 1 ก็หาได้ให้การต่อสู้เป็นประเด็นไว้ในศาลชั้นต้นแต่อย่างใดไม่ ทั้งตามสำนวนก็ไม่มีข้อเท็จจริงอันใดที่แสดงว่าการสอบสวนนั้นไม่ชอบ การที่จำเลยเพิ่งมาคัดค้านขึ้นในชั้นอุทธรณ์และฎีกาย่อมไม่มีเหตุที่จะวินิจฉัยให้

จำเลยที่ 1 ฎีกาต่อไปอีกว่า แม้จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพมาโดยตลอดก็ตาม โจทก์ก็มีหน้าที่ต้องนำสืบพิสูจน์ความผิดของจำเลยที่ 1 จนกว่าศาลจะพอใจว่าจำเลยที่ 1 ได้กระทำความผิดจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176 และจำเลยที่ 1 อายุ 19 ปี ศาลต้องลดมาตราส่วนโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76 นั้น ศาลฎีกาเห็นว่า ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 5 ปี จึงต้องห้ามฎีกาปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย”

พิพากษายกฎีกาจำเลยที่ 1

Share