คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2928/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่โจทก์ซื้อกระดาษคราฟทมาทำเป็นกระดาษลูกฟูกโดยการนำกระดาษคราฟท1หรือ2แผ่นเข้าเครื่องอัดให้เป็นลอนที่เรียกว่าลูกฟูกแล้วนำกระดาษคราฟทอีก2หรือ3แผ่นมาทากาวติดด้านบนด้านล่างและระหว่างกลางเป็นกระดาษลูกฟูกชนิด3ชั้นหรือ5ชั้นเป็นการนำกระดาษคราฟทธรรมดามาประกอบหรือแปรรูปหรือแปรสภาพเป็นกระดาษลูกฟูกขึ้นใหม่ฟังได้ว่าเป็นการผลิตกระดาษลูกฟูกตามมาตรา77แห่งประมวลรัษฎากรที่ใช้บังคับในขณะนั้นแล้วมิใช่เป็นการนำกระดาษมาทำเป็นกระดาษในสภาพเดิมทั้งโจทก์ขายกระดาษลูกฟูกที่ผลิตขึ้นนี้ให้แก่บุคคลภายนอกไปเพื่อทำเป็นกล่องกระดาษหรืออื่นๆไม่เพียงแต่โจทก์จะนำมาผลิตเป็นกล่องกระดาษลูกฟูกจำหน่ายเท่านั้นกรณีที่จะเป็นเครื่องใช้หรือของใช้ใดๆในหมวด5(2)ตามบัญชีที่3ท้ายพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นภาษีการค้า(ฉบับที่54)พ.ศ.2517แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา3และ5แห่งพระราชกฤษฎีกา(ฉบับที่156)พ.ศ.2528ซึ่งใช้อยู่ในขณะนั้นก็ต่อเมื่อโจทก์ซื้อกระดาษลูกฟูกมาผลิตเป็นกล่องกระดาษลูกฟูกขึ้นอีกต่างหาเท่านั้นสินค้าของโจทก์จัดเป็นสินค้าเบ็ดเตล็ดประเภทกระดาษทุกชนิดเข้าในหมวด8(9)บัญชีที่1ท้ายพระราชกฤษฎีกาฯ(ฉบับที่54)พ.ศ.2517ที่ได้แก้ใหม่ซึ่งมิได้รับการลดอัตราภาษีการค้าตามพระราชกฤษฎีกานี้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการประเมินภาษีการค้าของจำเลยและเพิกถอนคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์
จำเลยทั้งหมดให้การต่อสู้คดี ขอให้ยกฟ้อง
ศาลภาษีอากรกลางพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรวินิจฉัยว่า การที่โจทก์ได้ซื้อกระดาษคราฟทนำมาทำเป็นกระดาษลูกฟูก โดยการนำกระดาษคราฟท 1หรือ 2 แผ่น เข้าเครื่องอันให้เป็นลอนที่เรียกว่าลูกฟูกแล้วนำกระดาษคราฟทอีก 2 หรือ 3 แผ่น มาทากาวติดด้านบนด้านล่างและระหว่างกลางเป็นกระดาษลูกฟูกชนิด 3 ชั้น หรือ 5 ชั้น ก็ตาม ก็เป็นการนำกระดาษคราฟทธรรมมาประกอบหรือแปรรูป หรือแปรสภาพเป็นกระดาษลูกฟูกใหม่ ฟังได้ว่าเป็นการผลิตกระดาษลูกฟูกตามความในมาตรา 77 และประมวลรัษฎากร ที่ใช้บังคับในขณะนั้นแล้วมิใช่เป็นการนำกระดาษมาทำเป็นกระดาษในสภาพเดิมดังที่โจทก์อ้างและจากการนำสืบของโจทก์เองก็ได้ความว่า โจทก์ได้ขายกระดาษลูกฟูกที่ผลิตขึ้นนี้ให้แก่บุคคลภายนอกไปเพื่อทำเป็นกล่องกระดาษหรืออื่น ๆไม่เพียงแต่โจทก์จะนำมาผลิตเป็นกล่องกระดาษลูกฟูกจำหน่ายเท่านั้นกระดาษลูกฟูกที่โจทก์ผลิตขึ้นมาจากกระดาษคราฟทนี้ แม้จะไม่ได้กำหนดเรียกชื่อไว้โดยตรงในบัญชีทั้งสามท้ายพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นภาษีการค้า(ฉบับที่ 54) พ.ศ. 2517 แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 3 และมาตรา 5แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตราภาษีการค้า (ฉบับที่ 156) พ.ศ. 2528 ซึ่งใช้อยู่ในขณะนั้นก็ตาม แต่ก็เห็นได้ว่าเป็นกระดาษชนิดหนึ่งซึ่งจัดอยู่ในระเภทกระดาษทุกชนิดในมาตรา 8(9) ตามบัญชีที่ 1ท้ายพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวอยู่แล้วจึงหาจำต้องระบุไว้อีกไม่กรณีที่จะเป็นเครื่องใช้หรือของใช้ใด ๆ ในหมวด 5(2) ตามบัญชีที่ 3ท้ายพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว ตามที่โจทก์อ้างก็ต่อเมื่อโจทก์ได้ซื้อกระดาษลูกฟูกมาผลิตเป็นกล่องกระดาษลูกฟูกขึ้นอีกต่างหากเท่านั้นยิ่งเมื่อได้พิจารณาถึงเหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฯ(ฉบับที่ 156) พ.ศ. 2528 ที่แก้ไขความใน (9)(10) ของหมวด 8ในบัญชีที่ 1 และใน (1)(2) ของหมวด 5 ในบัญชีที่ 3 แห่งบัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 54) พ.ศ.2517 ด้วยการยกเลิกข้อความว่า “กระดาษคราฟทหรือกระดาษคราฟทที่ทำเป็นลูกฟูกไม่ว่าจะปิดด้วยแผ่นเรียบหรือไม่ก็ตาม” ออกจากข้อความเดิมในหมวดนั้น ๆ เพื่อยกเลิกการลดอัตราภาษีการค้าสำหรับกระดาษคราฟทให้เหมาะสมกับสถานการณ์ด้วยแล้วก็ จะยิ่งเห็นชัดว่ากระดาษคราฟทหรือกระดาษคราฟทที่ทำเป็นลูกฟูกไม่ว่าจะปิดด้วยแผ่นเรียบหรือไม่ก็ตาม เป็นกระดาษชนิดหนึ่งรวมอยู่ในกระดาษทุกชนิดในหมวด 8(9)บัญชีที่ 1 ที่ได้ได้รับการลดอัตราภาษีการค้าดังเดิมแล้วมิฉะนั้นคงไม่ยกเลิกข้อความว่ากระดาษคราฟทหรือกระดาษคราฟทที่ทำเป็นลูกฟูกไม่ว่าจะปิดด้วยแผ่นเรียบหรือไม่ก็ตาม ซึ่งเคยได้รับการลดอัตราภาษีการค้าโดยการบัญญัติอยู่ในหมวด 5(1) บัญชีที่ 3ไป พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 156) พ.ศ. 2528 มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2528 และสินค้าของโจทก์ที่เกิดกรณีพิพาทอัตราภาษีการค้าเป็นสินค้าระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงธันวาคม 2528สินค้าของโจทก์อยู่ภายในบังคับใช้ของพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 156)พ.ศ.2528 ดังนั้นสินค้าของโจทก์จึงจัดเป็นสินค้าเบ็ดเตล็ดประเภทกระดาษทุกชนิดเข้าในหมวด 8(9) บัญชีที่ 1ท้ายพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นภาษีการค้า (ฉบับที่ 54) พ.ศ. 2517 ที่ได้แก้ไขใหม่ ซึ่งมิได้รับการลดอัตราภาษีการค้าตามพระราชกฤษฎีกานี้แต่อย่างใดการประเมินของเจ้าพนักงานประเมินและคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ของจำเลยชอบแล้ว
พิพากษายืน

Share