คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2922/2541

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ข. เป็นผู้รับมอบอำนาจจาก ก. ให้นำที่ดินตาม น.ส.3ไปประกันตัวจำเลยต่อศาลชั้นต้น ตามหนังสือมอบอำนาจมีข้อความระบุว่า ก. ได้มอบให้ ข. นำที่ดินตาม น.ส.3ดังกล่าวข้างต้นไปประกันตัวจำเลยต่อศาล และให้มีอำนาจประกันตัวในชั้นอุทธรณ์ ชั้นฎีกาหรือจนกว่าคดีจะถึงที่สุดและให้ ข. ทำหน้าที่ต่าง ๆ ในฐานะผู้ประกันอันพึงปฏิบัติทั้งให้ถอนหลักทรัพย์และเงินวางศาลคืนจากศาลได้เท่านั้นก. หาได้มอบอำนาจให้ ข. อุทธรณ์คำสั่งศาลที่สั่งปรับก. ผู้ประกันแทน ก. แต่อย่างใดไม่ ข. จึงไม่มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าวนั้นได้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2540 ซึ่งอยู่ในระหว่างระยะเวลาที่พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรตำบลควนมีดยื่นคำร้องขอฝากขังจำเลยทั้งสองต่อศาลชั้นต้นในข้อหาความผิดต่อพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นขอให้ปล่อยชั่วคราวโดยมีนางกูบูหงา หนูชูสุข มอบอำนาจให้นายขิ้ม แซ่เฮง นำที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3 ก.) มาเป็นหลักประกันในการขอให้ปล่อยจำเลยที่ 2ชั่วคราวศาลชั้นต้นอนุญาตให้ปล่อยจำเลยที่ 2 ชั่วคราว โดยตีราคาค่าประกันเป็นเงิน 500,000 บาท
ครั้นวันที่ 18 เมษายน 2540 นายขิ้มในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากผู้ประกันยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นว่าไม่ประสงค์จะประกันจำเลยที่ 2 อีกต่อไปขอถอนหลักประกันคืน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งในวันเดียวกันว่า ผู้ประกันตกลงจะประกันจำเลยที่ 2 ต่อไปจนถึงวันที่ 23 เมษายน 2540 และผู้ประกันจะคืนค่าเช่าหลักประกันให้จำเลยที่ 2 เป็นเงิน 30,000 บาท โดยจำเลยที่ 2 จะหาหลักประกันมาประกันตัวเอง ผู้ประกันจึงขอถอนคำร้องฉบับนี้
วันที่ 23 เมษายน 2540 นายขิ้มยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นว่า จำเลยที่ 2 ไม่มาศาลตามนัดจึงขอวางเงิน 30,000 บาทต่อศาลชั้นต้นและขอถอนหลักประกันคืน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าเมื่อจำเลยที่ 2 ไม่มาศาล ผู้ประกันจึงยังคงผูกพันตามสัญญาประกันผู้ประกันจะวางเงินจำนวนดังกล่าวและรับหลักประกันคืนไปไม่ได้ให้ผู้ประกันส่งตัวจำเลยที่ 2 ตามนัด
ต่อมาวันที่ 30 เมษายน 2540 ซึ่งเป็นวันนัดส่งตัวจำเลยที่ 2นายขิ้มยื่นคำร้องขอลดค่าปรับเหลือ 30,000 บาท ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ผู้ประกันไม่ส่งตัวจำเลยที่ 2 ตามกำหนด ไม่มีเหตุลดค่าปรับ ให้ปรับผู้ประกันตามสัญญาประกัน
ผู้ประกันอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายกอุทธรณ์
ผู้ประกันฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 โดยไม่มีคู่ความฝ่ายใดโต้แย้งว่า นายขิ้ม แซ่เฮงเป็นผู้รับมอบอำนาจจากนางกูบูหงา หนูชูสุข ให้นำที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์รวม 3 ฉบับ ไปประกันตัวจำเลยที่ 2ต่อศาลชั้นต้น คดีมีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้ประกันว่านายขิ้มมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นหรือไม่ เห็นว่าตามหนังสือมอบอำนาจลงวันที่ 4 มีนาคม 2540 มีข้อความระบุว่านางกูบูหงาได้มอบให้นายขิ้มนำที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ดังกล่าวข้างต้นไปประกันตัวนางสุธาทิพย์ สงัดศัพท์จำเลยต่อศาลจังหวัดสงขลา และให้มีอำนาจประกันตัวในชั้นอุทธรณ์ชั้นฎีกาหรือจนกว่าคดีจะถึงที่สุด และให้นายขิ้มทำหน้าที่ต่าง ๆในฐานะผู้ประกันอันพึงปฏิบัติ ทั้งให้ถอนหลักทรัพย์และเงินวางศาลคืนจากศาลเท่านั้น หาได้มอบอำนาจให้นายขิ้มอุทธรณ์แทนผู้ประกันแต่อย่างใดไม่ ดังนั้น นายขิ้มจึงไม่มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้น
พิพากษายืน

Share