คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 292/2520

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องคดีไปโดยใช้ชื่อว่า “บริการขนส่งสิงห์ชัยตาคลี โดยนายเซียมเซียชมภูเจ้าของบริการเป็นโจทก์แม้ว่า”บริการขนส่งสิงห์ชัยตาคลี”จะมิได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่ก็เป็นนามสมญาในทางการค้าของนายเซียมเซียชมภูและนายเซียมเซียชมภูได้ฟ้องในนามเจ้าของสมญาดังกล่าว เป็นเรื่องเจ้าของบริการฟ้องในนามบริการซึ่งเป็นบุคคลเดียวกันจึงมีอำนาจฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ส. ลูกจ้างของจำเลยที่ 1 และที่ 2 ขับรถในทางการที่จ้างด้วยความประมาทชนท้ายรถโจทก์ที่ 1 เสียหาย จำเลยที่ 3 เป็นผู้รับประกันภัยค้ำจุนรถของจำเลยที่ 1 ที่ 2 จึงขอให้จำเลยร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์

จำเลยทั้งสามให้การว่า เหตุเกิดขึ้นไม่ใช่เพราะความผิดของ ส. แต่เป็นความผิดของฝ่ายโจทก์ ค่าเสียหายไม่มากดังฟ้อง

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ส. ลูกจ้างจำเลยที่ 2 เป็นฝ่ายผิด แต่คนขับรถของโจทก์มีส่วนประมาทอยู่ด้วย พิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ทั้งสองกึ่งหนึ่ง

โจทก์และจำเลยทั้งสามอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าลูกจ้างของจำเลยที่ 2 ประมาทฝ่ายเดียว พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้น

จำเลยทั้งสามฎีกาว่า โจทก์ที่ 1 ไม่ได้เป็นนิติบุคคล ไม่มีอำนาจฟ้องความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นเพราะความประมาทของคนขับรถของโจทก์ฝ่ายเดียว

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า บริการขนส่งสิงห์ชัยตาคลีเป็นนามสมญาในทางการค้าของนายเซียมเซีย ชมภู และนายเซียมเซีย ชมภู ได้ฟ้องในนามเจ้าของนามสมญาดังกล่าว ฉะนั้น นายเซียมเซีย ชมภู เจ้าของนามสมญาในทางการค้าจึงมีอำนาจฟ้องคดีนี้ความเสียหายที่เกิดขึ้นเกิดจากความประมาทของ ส. คนขับรถของจำเลยที่ 2 ฝ่ายเดียว จำเลยทั้งสามร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์

พิพากษายืน

Share