แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 267ลงโทษจำคุก 1 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกาว่า ห.เป็นเจ้าพนักงานผู้กระทำผิดเสียเอง มิได้เป็นเจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่ทั้งยังใช้จำเลยเป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดการกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดนั้น เป็นการประสงค์จะให้ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงใหม่ว่า เจ้าพนักงานเป็นผู้กระทำผิดเสียเองอันเป็นการโต้แย้งข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยเป็นยุติไว้แล้วทั้งนี้เพื่อนำไปสู่ปัญหาข้อกฎหมายว่า ห. เป็นเจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่หรือไม่ จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตาม ป.วิ.อ. มาตรา 218 วรรคแรก เมื่อ ห. เป็นนายทะเบียนมีหน้าที่รับแจ้งการย้าย และได้ลงชื่อเป็นผู้รับแจ้งข้อความซึ่งเป็นข้อความเท็จตามที่จำเลยมาแจ้งแล้ว การกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิด การที่ ห. จะใช้ให้บุคคลใดเป็นผู้เขียนหรือจดข้อความแทน หาใช่เป็นสาระสำคัญอันจะทำให้การกระทำของจำเลยขาดองค์ประกอบไม่เป็นความผิดตามป.อ. มาตรา 267 แต่อย่างใดไม่.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265,267, 91 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6)พ.ศ. 2526 มาตรา 4
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 267 ลงโทษจำคุก 1 ปี ข้อหาอื่นให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามฟ้องหรือไม่ ที่จำเลยฎีกาข้อแรกว่านายเหรียญผู้รับแจ้งการย้ายจากจำเลยเป็นเจ้าพนักงานผู้กระทำความผิดเสียเอง มิได้เป็นเจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่ ทั้งยังใช้จำเลยเป็นเครื่องมือในการกระทำความผิด การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดนั้นเห็นว่า ฎีกาของจำเลยดังกล่าว ประสงค์จะให้ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงใหม่ว่านายเหรียญเป็นผู้กระทำความผิดเสียเอง อันเป็นการโต้แย้งข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยเป็นยุติไว้แล้วทั้งนี้เพื่อนำไปสู่ปัญหาข้อกฎหมายว่า นายเหรียญเป็นเจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่หรือไม่ จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรกศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย ส่วนที่จำเลยฎีกาในข้อต่อมาว่านายเหรียญเป็นผู้ใช้ให้จำเลยจดข้อความอันเป็นเท็จลงในใบแจ้งการย้ายที่อยู่ ท.ร.17 โดยนายเหรียญมิได้เป็นผู้จดข้อความอันเป็นเท็จด้วยตนเอง แต่ลงชื่อไว้ในฐานะเป็นนายทะเบียนผู้รับแจ้ง จะทำให้การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดหรือไม่นั้น เห็นว่า เมื่อนายเหรียญเป็นนายทะเบียนมีหน้าที่รับแจ้งการย้าย และได้ลงชื่อเป็นผู้รับแจ้งข้อความตามที่ปรากฏในเอกสารใบแจ้งการย้ายที่อยู่ท.ร.17 ซึ่งเป็นข้อความเท็จตามที่จำเลยมาแจ้งแล้ว การกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิด การที่นายเหรียญจะใช้ให้บุคคลใดเป็นผู้เขียนหรือจดข้อความลงในใบแจ้งการย้ายที่อยู่ ท.ร.17 แทนนายเหรียญหาใช่เป็นสาระสำคัญอันจะทำให้การกระทำของจำเลยขาดองค์ประกอบไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 267แต่อย่างใดไม่…”
พิพากษายืน.