คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2913/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยวิ่งไปพูดกับนาย น. ว่า “ยิงแล้วยิงให้ตายยิงแล้วยิงให้ตาย” ภายหลังจากที่นาย น. ลงมือกระทำความผิดใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายไป 1 นัดแล้ว คำพูดของจำเลยดังกล่าวไม่เป็นการร่วมกับนาย น. ยิงผู้ตายและมิใช่เป็นผู้ก่อให้นาย น.กระทำความผิด หากแต่เป็นคำพูดยุยงสนับสนุนเร้าใจให้นาย น.ยิงผู้ตายให้ถึงแก่ความตายหนักแน่นยิ่งขึ้นเท่านั้น การกระทำของจำเลยจึงเป็นการสนับสนุนให้นาย น. กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓, ๒๘๘
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๘, ๘๓ จำคุก ๒๐ ปี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ส่วนที่จำเลยพูดกับนายหนูว่า “ยิงแล้วยิงให้ตายยิงแล้วยิงให้ตาย” เป็นการร่วมกับนายหนูยิงผู้ตายหรือก่อให้นายหนูกระทำความผิดหรือไม่นั้น เห็นว่าจำเลยมิได้กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดที่แสดงว่าร่วมกับนายหนูยิงผู้ตาย การที่จำเลยวิ่งไปพูดกับนายหนูดังกล่าวเป็นเพียงคำพูดยุยงให้นายหนูยิงผู้ตายให้ตายภายหลังจากที่นายหนูลงมือกระทำความผิดใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายไป ๑ นัดแล้ว คำพูดของจำเลยดังกล่าวไม่เป็นการร่วมกับนายหนูยิงผู้ตายและมิใช่เป็นผู้ก่อให้นายหนูกระทำความผิดหากแต่เป็นคำยุยงสนับสนุนเร้าใจให้นายหนูยิงผู้ตายให้ถึงแก่ความตายหนักแน่นยิ่งขึ้นเท่านั้น การกระทำของจำเลยจึงเป็นการสนับสนุนให้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๖ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๘, ๘๖ ให้จำคุกมีกำหนด ๑๓ ปี ๔ เดือน

Share