คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2913/2516

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

หลอดแก้วบรรจุตัวยานั้นอยู่ในสภาพที่อาจอุปโภคได้ทันที โดยไม่จำต้องเปลี่ยนหรือดัดแปลงอย่างใดอีก การตัดและเชื่อมปากหลอดแก้วในการบรรจุยา หาใช่เป็นเรื่องการเปลี่ยนสภาพหลอดแก้วให้เป็นอื่นไปไม่ จึงเป็นสินค้าสำเร็จรูป
ตัวยาผงซึ่งอาจใช้หรือรับประทานได้ทันทีตามขนาดที่กำหนดไว้ แม้ประชาชนจะต้องซื้อภายหลังที่ทำเป็นเม็ดหรือละลายเป็นยาฉีดแล้ว และในการทำยาผงให้เป็นเม็ดจะต้องผสมสิ่งอื่นเพื่อให้มีความเหนียวทำให้ตัวยาเกาะแน่น หรือในการทำยาฉีดต้องเอายาผงไปละลายน้ำก่อนก็ตาม ก็หาได้ทำให้ยาผงนั้นเปลี่ยนแปลงไปไม่ ประชาชนทั่วไปและแพทย์ผู้ใช้ยาผงนั้นกับคนไข้อาจผสมหรือละลายยาผงนั้นเพื่อความสะดวกในการอุปโภคและบริโภคเองได้ถ้าประสงค์ และแม้ไม่ผสมกับสิ่งอื่นหรือละลายน้ำก็ยังอยู่ในสภาพที่อาจอุปโภคและบริโภคได้ทันที จึงต้องถือว่าเป็นสินค้าสำเร็จรูป

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ระหว่าง พ.ศ. 2504 ถึง พ.ศ. 2508 โจทก์ได้สั่งหลอดแก้วเพื่อบรรจุตัวยาและตัวยาเข้ามาในราชอาณาจักร ได้ยื่นรายการเสียภาษีการค้าว่าเป็นวัตถุดิบต่อมาจำเลยที่ 2 และที่ 3 แจ้งว่าโจทก์ขอเสียภาษีไม่ถูกต้อง เพราะสินค้าของโจทก์เป็นสินค้าสำเร็จรูปแล้ว โจทก์ไม่เห็นด้วยจึงได้ยื่นอุทธรณ์ จำเลยที่ 4 ถึงที่ 6 ซึ่งเป็นคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ วินิจฉัยให้ยกอุทธรณ์โจทก์ ซึ่งโจทก์เห็นว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้พิพากษาว่าการประเมินภาษีและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย และให้ระงับการเรียกเก็บภาษีการค้านั้นเสีย

จำเลยที่ 1 ถึงที่ 6 ให้การว่า การประเมินภาษีการค้าและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ชอบด้วยกฎหมายแล้ว

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า หลอดแก้วบรรจุยาเป็นสินค้าสำเร็จรูปส่วนตัวยาไม่ใช่สินค้าสำเร็จรูป พิพากษาว่าการประเมินภาษีการค้าของจำเลยที่ 1 และที่ 2 และคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยที่ 4 ถึงที่ 6ไม่ชอบด้วยกฎหมายเฉพาะในส่วนเกี่ยวกับสินค้าตัวยา

โจทก์และจำเลยที่ 1 ถึงที่ 6 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์และจำเลยที่ 1 ถึงที่ 6 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ประมวลรัษฎากร มาตรา 77 บัญญัติว่าสินค้าสำเร็จรูปหมายความว่าสินค้าซึ่งตามสภาพอาจอุปโภคบริโภคได้โดยไม่จำต้องเปลี่ยนหรือดัดแปลงหรือนำไปผสมกับสิ่งอื่น” หลอดแก้วบรรจุตัวยาที่โจทก์สั่งเข้ามานั้นอยู่ในสภาพที่อาจอุปโภคหรือใช้ได้ทันที โดยไม่จำต้องเปลี่ยนหรือดัดแปลงอย่างใดอีก การตัดและเชื่อมปากหลอดแก้วนั้น หาใช่เป็นเรื่องการเปลี่ยนสภาพหลอดแก้วให้เป็นอื่นไปไม่ ตามนัยแห่งมาตรา 77 ดังกล่าว ใครเป็นผู้อุปโภคบริโภคสำหรับสินค้าประเภทใด ต้องพิจารณาตามสภาพของสินค้านั้นเป็นเรื่อง ๆ ไป โจทก์เองในฐานะเป็นผู้ผลิตยาฉีดเพื่อจำหน่ายย่อมเป็นผู้อุปโภคผู้หนึ่ง เมื่อหลอดแก้วบรรจุตัวยานี้ตามสภาพโจทก์อาจอุปโภคได้ทันทีจึงเป็นสินค้าสำเร็จรูป ส่วนตัวยาผงนั้น อาจใช้หรือรับประทานได้ทันที แต่การใช้หรือรับประทานนั้นต้องเป็นไปตามขนาดที่กำหนดไว้ แม้ประชาชนไม่สามารถจะซื้อไปบริโภคได้ จะต้องซื้อเมื่อภายหลังที่ทำเป็นเม็ดหรือละลายเป็นยาฉีดแล้ว และในการทำยาผงให้เป็นเม็ดก็ต้องมีการผสมสิ่งอื่นเพื่อให้มีความเหนียวทำให้ตัวยาเกาะแน่น ถ้าจะทำให้เป็นยาฉีดก็ต้องเอาไปละลายน้ำก่อนก็ตามเห็นได้ว่าการผสมวัตถุหรือน้ำดังกล่าวเข้ากับตัวยาผง หาได้ทำให้ยาผงเปลี่ยนแปลงไปไม่ ยาผงมีทั้งประชาชนทั่วไปและแพทย์ผู้ใช้ยาดังกล่าวแก่คนไข้เป็นผู้อุปโภคหรือบริโภคบุคคลเหล่านี้อาจผสมหรือละลายยาผงนั้นเพื่อความสะดวกในการอุปโภคหรือบริโภคเองได้ถ้าประสงค์และแม้ไม่ผสมกับสิ่งอื่นหรือละลายกับน้ำ ยาผงดังกล่าวก็ยังอยู่ในสภาพที่อาจอุปโภคและบริโภคได้ทันทีอยู่แล้ว จึงต้องถือว่ายาผงเหล่านี้เป็นสินค้าสำเร็จรูป

พิพากษาแก้ ให้ยกฟ้องของโจทก์ทั้งหมด

Share