คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2912/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยเดินเข้าไปในบ้านผู้เสียหายเพราะต้องการถามผู้เสียหายว่า ด่ามารดาจำเลยด้วยเรื่องอะไร ถือว่าจำเลยมีเหตุอันสมควรเข้าไปในบ้านผู้เสียหาย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2533 เวลากลางคืนหลังเที่ยง จำเลยโดยไม่มีเหตุอันสมควรได้บุกรุกเข้าไปในเคหสถานของนายประเสริฐ นิกาจี๊ ผู้เสียหายอันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของเขาโดยปกติสุข เหตุเกิดที่แขวงคลองตันเขตคลองเตย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362, 364, 365
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 365(3) ประกอบด้วยมาตรา 364 จำคุก 6 เดือน ปรับ 1,000 บาทโทษจำคุกให้รอไว้มีกำหนด 1 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาโจทก์ว่าจำเลยได้กระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ เห็นว่า แม้จะได้ความตามที่โจทก์นำสืบว่านางบานชื่นเปิดประตูบ้านก็เพื่อดูว่าคนที่มาเรียกผู้เสียหายเป็นใคร จำเลยก็ดันประตูบ้านแล้วเดินเข้าไปในบ้านผู้เสียหายก็ตาม แต่ขณะที่จำเลยเดินเข้าไปในบ้านผู้เสียหายนั้นก็ไม่ปรากฏว่า นางบานชื่นหรือบุคคลในบ้านผู้เสียหายได้ห้ามปรามจำเลยไม่ให้เข้าไปในบ้านผู้เสียหายแต่อย่างใดอีกทั้งจำเลยกับนางบานชื่นเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน และเป็นคนเคยรู้จักกันมาก่อน พฤติการณ์เช่นนี้ฟังได้ว่า นางบานชื่นได้ยินยอมให้จำเลยเข้าไปในบ้านผู้เสียหายโดยปริยายแล้ว ประกอบกับได้ความจากคำเบิกความของนางบานชื่นพยานโจทก์ว่า จำเลยได้เข้าไปถามผู้เสียหายว่า ด่ามารดาจำเลยเรื่องอะไร การที่จำเลยเข้าไปถามผู้เสียหายเพราะต้องการทราบเรื่องดังกล่าว จึงมีเหตุอันสมควรอีกทั้งยังได้ความจากคำเบิกความของพยานปากนี้ตอบทนายจำเลยถามค้านว่า พยานและลูก ๆ เป็นผู้ช่วยกันดันจำเลยออกไป ผ่านประตูด้านในบ้าน ผ่านประตูด้านนอก แสดงว่าจำเลยยินยอมออกไปจากบ้านผู้เสียหายแต่โดยดี การกระทำของจำเลยเช่นนี้จึงไม่เป็นความผิดตามฟ้อง ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share