คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2910/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยแต่งตั้งให้โจทก์เป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นของจำเลย โจทก์ได้ทำใบสั่งซื้อน้ำมันชนิดต่างๆ จากจำเลย ใบสั่งซื้อจึงเป็นคำเสนอของโจทก์ เมื่อจำเลยมีหนังสือตอบโจทก์ว่าสินค้าที่โจทก์สั่งซื้อและยังขนไปไม่หมดนั้น จำเลยยินดีให้ราคาเก่าถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2522 ทั้งต่อมายังได้มีหนังสือถึงโจทก์อีกว่า จำเลยพร้อมจะให้โจทก์รับสินค้าไปได้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2522 แม้จะมีอุปสรรคเกี่ยวกับภาชนะบรรจุอยู่บ้าง จำเลยก็จะผลิตน้ำมันส่วนที่โจทก์ต้องการให้ถึงที่สุดดังนี้ สัญญาซื้อขายน้ำมันระหว่างโจทก์จำเลยได้เกิดขึ้นแล้ว
เมื่อสัญญาซื้อขายน้ำมันเกิดขึ้นแล้ว ผู้ขายจำต้องส่งมอบทรัพย์ที่ขายให้แก่ผู้ซื้อตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 461จำเลยจะอ้างประเพณีการค้าว่าบริษัทผู้ขายน้ำมันไม่จำต้องผูกพันว่าจะต้องขายน้ำมันให้แก่ผู้ซื้อโดยผู้ขายมีสิทธิคืนเงินราคาที่ชำระแล้วแก่ผู้ซื้อหรือเพราะเกิดวิกฤติการณ์น้ำมันขึ้นทั่วโลกมาเป็นข้อบอกปัดไม่ขายน้ำมันให้แก่โจทก์หาได้ไม่
เมื่อจำเลยไม่ส่งมอบทรัพย์ที่ซื้อขายตามสัญญา โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอันเกิดแต่การไม่ส่งมอบนั้นได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 215,222

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยแต่งตั้งให้โจทก์เป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นของจำเลย โจทก์ได้สั่งซื้อผลิตภัณฑ์น้ำมันจากจำเลยรวม 4 ครั้ง จำเลยตกลงขายให้โจทก์แล้วผิดสัญญาไม่ส่งมอบน้ำมันให้โจทก์ครบถ้วนตามสัญญา ขอให้บังคับจำเลยส่งมอบน้ำมันที่ยังขาดอยู่หากไม่สามารถส่งมอบได้ก็ให้ใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์

จำเลยให้การว่า สัญญาซื้อขายระหว่างโจทก์จำเลยไม่เคยเกิดมีขึ้น เมื่อโจทก์ต้องการสินค้าใดก็แจ้งมายังจำเลยโดยไม่มีผลผูกพันว่าจำเลยจะต้องขายผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ให้แก่โจทก์ แม้จำเลยจะออกใบอินวอยซ์หรือใบส่งของให้โจทก์ไปแล้วก็ตาม หากโรงงานของจำเลยไม่พร้อมที่จะส่งมอบให้โจทก์ได้ จำเลยก็ยังมีสิทธิตัดผลิตภัณฑ์นั้นออกได้ สัญญาซื้อขายจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อจำเลยได้ส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ให้แก่โจทก์แล้วเท่านั้น ส่วนราคาสินค้าที่โจทก์ชำระไว้เกินจากสินค้าที่ได้รับไปนั้น จำเลยได้คืนแก่โจทก์แล้ว โจทก์จำเลยจึงไม่มีนิติสัมพันธ์ต่อกันอีก ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยส่งมอบสินค้าที่ยังขาดอยู่แก่โจทก์หากไม่สามารถส่งมอบได้ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เอกสารใบสั่งซื้อหมาย จ.5 ถึง จ.8 มีข้อความชัดเจนว่าโจทก์ขอสั่งซื้อสินค้าน้ำมันตามรายการในใบสั่งซื้อจากจำเลย เป็นการชัดแจ้งอยู่ในตัวแล้วว่าเป็นคำเสนอซื้อของโจทก์ จำเลยมีหนังสือถึงโจทก์ว่าใบสั่งซื้อที่โจทก์ได้สั่งไว้และยังทำการขนไม่หมด บริษัทยินดีให้ราคาเก่าถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2522 คำว่ายินดีให้ราคาเก่านี้จะหมายความเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากยินดีขายให้โจทก์ในราคาเก่านั่นเอง ต่อมาโจทก์มีหนังสือถึงจำเลยตามเอกสารหมาย จ.11 ขอรับสินค้าตามใบสั่งซื้อ จำเลยมีหนังสือตอบตามเอกสารหมาย จ.12 ว่า บริษัทจำเลยพร้อมจะให้โจทก์รับสินค้าไปได้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2522 เป็นต้นไป นอกจากนี้บริษัทจำเลยยังได้มีหนังสือถึงโจทก์เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2522 ตามเอกสารหมาย จ.14 อีกว่า แม้จะมีอุปสรรคเกี่ยวกับภาชนะบรรจุอยู่บ้าง บริษัทจำเลยก็ยืนยันจะผลิตน้ำมันส่วนที่โจทก์ต้องการรับให้ถึงที่สุด อนึ่ง จำเลยยอมรับมาในคำให้การด้วยว่า โจทก์ได้ชำระราคาสินค้าให้จำเลยเกินมาเป็นเงินจำนวน 35,187 บาท และตามตั๋วแลกเงินอีก1,255,275 บาท ซึ่งเป็นเหตุผลอยู่ในตัวว่า ถ้าหากโจทก์จำเลยไม่มีนิติสัมพันธ์ในการซื้อขายต่อกันแล้ว จำเลยจะรับเงินค่าสินค้าเหล่านั้นไว้จากโจทก์ได้อย่างไร ในใบอินวอยซ์หรือใบส่งของหมาย จ.9 ที่จำเลยออกให้โจทก์ถึง 856 แผ่นนั้น ทุกแผ่นก็มีข้อความชัดเจนว่าจำเลยขายให้แก่โจทก์ตามใบสั่งซื้อ ศาลฎีกาเห็นว่าเอกสารหมาย จ.5 ถึง จ.14 ดังกล่าวแล้วล้วนเป็นหลักฐานที่แสดงชัดถึงการตกลงซื้อขายน้ำมันระหว่างโจทก์จำเลย ซึ่งจำเลยจะเถียงเป็นอย่างอื่นไม่ได้

ที่จำเลยอ้างประเพณีการค้าว่า บริษัทผู้ขายน้ำมันไม่จำต้องผูกพันว่าจะต้องขายน้ำมันให้โจทก์ แม้จะออกใบอินวอยซ์หรือใบส่งของให้ผู้ซื้อแล้วก็ตาม เพราะเป็นวิกฤติการณ์น้ำมันทั่วโลก ศาลฎีกาเห็นว่าสัญญาซื้อขายย่อมเกิดมีขึ้นทันทีที่ตกลงซื้อขายกัน และผู้ขายจำต้องส่งมอบทรัพย์ซึ่งขายนั้นให้แก่ผู้ซื้อตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 461 จำเลยจะอ้างประเพณีใดมาลบล้างกฎหมายว่าผู้ขายน้ำมันไม่จำต้องส่งมอบน้ำมันที่ขายให้แก่ผู้ซื้อ โดยผู้ขายมีสิทธิคืนเงินราคาที่ชำระแล้วโดยวิธีออกใบหักหนี้หรือเครดิตโน้ตให้ผู้ซื้อไปก็ได้นั้น หาได้ไม่ วิกฤติการณ์น้ำมันทั่วโลกเมื่อ 7-8 ปีมาแล้วจะมีอยู่จริงหรือไม่ก็ตาม แต่กฎหมายของประเทศไทยในเรื่องการซื้อขายไม่ได้เปลี่ยนไปตามวิกฤติการณ์น้ำมันตามที่จำเลยอ้าง ผู้ซื้อและผู้ขายย่อมมีหน้าที่ปฏิบัติตามสัญญาและตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมาย ผู้ขายน้ำมันจะอ้างวิกฤติการณ์น้ำมันทั่วโลกมาเปลี่ยนแปลงหน้าที่ของตนตามสัญญาหรือตามกฎหมายหาได้ไม่

ศาลฎีกาเห็นว่าคดีฟังได้ชัดเจนว่า จำเลยได้ตกลงขายสินค้าน้ำมันให้โจทก์ตามใบสั่งซื้อของโจทก์จริง เมื่อจำเลยไม่ส่งมอบทรัพย์ที่ซื้อขายตามสัญญา โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอันเกิดแต่การไม่ส่งมอบนั้นได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 215, 222

พิพากษากลับ ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์

Share