คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 291/2485

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยไม่ใช้หนี้โจทก์และเจ้าหนี้อื่น กับไม่ปรากฏว่าจำเลยมีทรัพย์สมบัติเท่าไรแน่ดังนี้สันนิษฐานว่ามีหนี้สินล้นพ้นตัวได้. ในคดีล้มละลายโจทก์ฟ้องว่าจำเลยตั้งบ้านเรือนอยู่จังหวัดพระนคร เมื่อจำเลยต่อสู้ว่ามีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดอื่น โจทก์สืบว่า พักอยู่ในจังหวัดพระนครและประกอบธุระกิจในจังหวัดพระนครได้ ไม่เป็นการสืบนอกประเด็น.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลาย จำเลยตัดฟ้องว่าจำเลยมีภูมิลำเนาอยู่บ้างโป่ง จังหวัดราชบุรี โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องให้ล้มละลายได้ ทั้งจำเลยก็มิได้มีหนี้สินล้นพ้นตัว.
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลายตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.๒๔๘๓ มาตรา ๖๑.
จำเลยฎีกาว่า โจทก์ระบุในฟ้องว่าจำเลยตั้งบ้านเรือนอยู่ตึก ๗ ชั้น จังหวัดพระนคร ไม่ได้กล่าวว่าจำเลยประกอบธุระกิจในจังหวัดพระนคร โจทก์สืบว่าจำเลยประกอบธุระกิจในจังหวัดพระนคร เป็นการนอกประเด็น ศาลไม่ควรรับฟัง และข้อว่าจำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัวโจทก์ก็สืบไม่ได้ความตามที่กล่าวในมาตรา ๘ แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย.
ศาลฎีกาเห็นว่าการที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยตั้งบ้านเรือนอยู่ตึก ๗ ชั้น จังหวัดพระนคร ขอให้ศาลพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลาย จำเลยต่อสู้ว่ามีภูมิลำเนาอยู่บ้านโป่ง จังหวัดราชบุรีแห่งเดียว ซึ่งโจทก์จะฟ้องให้จำเลยล้มละลายไม่ได้ และโจทก์สืบพะยานว่าความจริงจำเลยมีที่พักอยู่ตึก ๗ ชั้นจังหวัดพระนครดั่งนี้ หาเป็นการสืบนอกฟ้องนอกประเด็นผิดกระบวนพิจารณาอย่างใดไม่ส่วนหนี้สินล้นพ้นตัวหรือไม่นั้น ก็ได้ความว่านอกจากจำเลยไม่ใช้หนี้โจทก์แล้ว ยังมีเจ้าหนี้อื่นอีกซึ่งจำเลยไม่ใช้ ทรัพย์สมบัติจำเลยก็ไม่ปรากฏว่า มีเท่าไรแน่ จึงเป็นเหตุให้พอถือได้ว่าจำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัวได้ ส่วนความในมาตรา ๘ เป็นแต่บัญญัติไว้ให้เห็นเป็นสังเขปว่าถ้ามีเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งปรากฏขึ้นดั่งที่บัญญัติไว้แล้ว ให้สันนิษฐานว่าจำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัวได้ หากมีเหตุอื่นใดปรากฏขึ้นนอกจากที่บัญญัติไว้ ศาลก็อาจถือว่าจำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัวได้เหมือนกัน ดั่งเช่นเหตุที่ได้ความมาในเรื่องนี้ จึงพิพากษายืนตามศาลล่าง.

Share