แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
บริษัทผู้ร้องให้ ณ. เช่าซื้อรถจักรยานยนต์ของกลาง ณ. ชำระเรื่อยมา จำเลยก็นำรถของกลางไปกระทำผิด ดังนี้ กรรมสิทธิ์ในรถของกลางยังเป็นของผู้ร้องอยู่ ผู้ร้องจึงมีสิทธิร้องขอคืนรถของกลางได้ เมื่อจำเลยกระทำผิดโดยลำพัง ซึ่ง ณ. และผู้อื่นมิได้รู้เห็นเกี่ยวข้องด้วย การที่ผู้ร้องขอคืนรถของกลางเพื่อให้ ณ. ปฏิบัติตามสัญญาเช่าซื้อต่อไป จึงมิได้เป็นการกระทำเพื่อประโยชน์ของผู้กระทำผิดอันเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตแต่อย่างใด ต้องคืนรถจักรยานยนต์ของกลางแก่ผู้ร้อง
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง, 67 และริบรถจักรยานยนต์หมายเลขทะเบียน เชียงใหม่ 3 ค – 2976 ของกลาง
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถจักรยานยนต์ของกลางและให้นายณรงค์ ม่วงวัดท่า เช่าซื้อไป ผู้ร้องไม่มีส่วนร่วมรู้เห็นเป็นใจ ขอให้ศาลมีคำสั่งคืนรถของกลางให้แก่ผู้ร้อง
โจทก์คัดค้านว่า ผู้ร้องมิใช่เจ้าของรถจักรยานยนต์ของกลาง และผู้ร้องมีส่วนรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดของจำเลย ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษากลับว่า ให้คืนรถจักรยานยนต์ของกลางแก่ผู้ร้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ข้อแรกว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ของกลางหรือไม่ เห็นว่า ผู้เช่าซื้อยังชำระค่าเช่าซื้อไม่ครบถ้วนตามสัญญา กรรมสิทธิ์ในรถจักรยานยนต์ของกลางยังเป็นของผู้ร้องอยู่ ผู้ร้องจึงมีสิทธิร้องขอคืนรถจักรยานยนต์ของกลาง ส่วนที่โจทก์ฎีกาในปัญหาข้อต่อไปสรุปความว่า ผู้ร้องยื่นคำร้องขอคืนรถจักรยานยนต์ของกลางเพื่อประสงค์ให้นายณรงค์ผู้เช่าซื้อหรือนายวินัยผู้ค้ำประกันได้เช่าซื้อต่อเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตนั้น เห็นว่า ได้ความตามคำเบิกความของร้อยตำรวจเอกคะนอง ไข่ทา พนักงานสอบสวนในคดีที่จำเลยถูกจับกุมพยานโจทก์ว่า ในชั้นสอบสวนปรากฏข้อเท็จจริงแต่เพียงว่าจำเลยกระทำความผิดโดยลำพังแต่ผู้เดียว ไม่มีบุคคลอื่นรู้เห็นเกี่ยวข้องด้วย ดังนั้น นายณรงค์ผู้เช่าซื้อและนายวินัยจึงไม่มีส่วนรู้เห็นในการกระทำความผิดของจำเลย การที่ผู้ร้องขอคืนรถจักรยานยนต์ของกลางเพื่อให้บุคคลดังกล่าวปฏิบัติตามสัญญาเช่าซื้อต่อไป จึงมิได้เป็นการกระทำเพื่อประโยชน์แก่ผู้กระทำความผิดอันเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตแต่อย่างใด ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษาให้คืนรถจักรยานยนต์ของกลางแก่ผู้ร้องชอบแล้วฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน