แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 2 ได้ร่วมกันทุจริตกับจำเลยที่ 1 โดยนำน้ำมันหล่อลื่นจำนวน 2 ถัง ขนาดถังละ 209 ลิตรราคาถังละ 5,747.50 บาท รวมเป็นเงิน 11,495 บาท ไปขายและเป็นประโยชน์เพื่อตนเองโดยทุจริต แสดงว่าโจทก์มิได้เจาะจงชนิดและคุณภาพของน้ำมันหล่อลื่นที่จำเลยที่ 2 นำไปขายโดยทุจริต เมื่อศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยที่ 2 ได้นำน้ำมันหล่อลื่น1 ถังไปจริง ก็ถือได้ว่าจำเลยที่ 2 ได้นำน้ำมันหล่อลื่นตามฟ้องของโจทก์ไปแล้ว แม้จะปรากฏว่าน้ำมันหล่อลื่นถังดังกล่าวมีน้ำผสมอยู่ก็ไม่อาจถือได้ว่าศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงต่างจากฟ้อง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันทุจริตต่อหน้าที่โดยนำน้ำมันหล่อลื่นของโจทก์ไปขาย ขอให้ร่วมกันใช้เงินพร้อมดอกเบี้ยตามฟ้องให้แก่โจทก์
จำเลยทั้งสองให้การว่า ไม่ได้ทุจริตต่อหน้าที่ และฟ้องโจทก์เคลือบคลุม ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยที่ ๑ ใช้เงินตามฟ้องพร้อมดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ โดยให้จำเลยที่ ๒ ร่วมรับผิดเพียงบางส่วน
จำเลยที่ ๒ อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า ที่จำเลยที่ ๒ อุทธรณ์ว่าโจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ ๒ ได้ร่วมทุจริตกับจำเลยที่ ๑ โดยนำน้ำมันหล่อลื่นจำนวน ๒ ถัง ขนาดถังละ ๒๐๙ ลิตร มีมูลค่าถังละ ๕,๗๔๗.๕๐ บาท รวมเป็นเงิน ๑๑,๔๙๕ บาท ไปขายเพื่อประโยชน์ตนเองโดยทุจริต จึงต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ ๑ โดยมิได้บรรยายให้ชัดเจนว่าน้ำมันหล่อลื่น ๒ ถังนั้นคือถังใดบ้างและมิได้บรรยายฟ้องว่า เป็นน้ำมันหล่อลื่นซึ่งมีน้ำผสมอยู่ด้วย ตามคำบรรยายฟ้องจึงเป็ที่แจ้งชัดว่าน้ำมันหล่อลื่นทั้ง ๒ ถังนั้นเป็นน้ำมันหล่อลื่นในถังที่ยังมีคุณภาพใช้การได้ มิใช่ถังที่มีน้ำปนอยู่ ศาลแรงงานกลางจึงไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาเกี่ยวกับน้ำมันหล่อลื่นถังที่ ๓ ซึ่งเป็นน้ำมันหล่อลื่นที่เสื่อมคุณภาพแล้วนี้ได้ คำพิพากษาศาลแรงงานกลาง เป็นคำพิพากษาที่เกินกว่าคำขอท้ายฟ้องและขัดต่อกฎหมาย พิเคราะห์แล้วเห็นว่า โจทก์ได้บรรยายสภาพแห่งข้อหาเกี่ยวกับจำเลยที่ ๒ ในคำฟ้องของโจทก์ว่า “…ได้ร่วมทุจริตกับจำเลยที่ ๑ โดยนำน้ำมันหล่อลื่นจำนวน ๒ ถัง ขนาดถังละ ๒๐๙ ลิตรซึ่งมีมูลค่าราคาถังละ ๕,๗๔๗.๕๐ บาท รวมเป็นเงิน ๑๑,๔๙๕ บาทไปขายและเป็นประโยชน์เพื่อตนเองโดยทุจริต…” ตามคำบรรยายฟ้องดังกล่าวแสดงว่า โจทก์หาได้เจาะจงชนิดและคุณภาพของน้ำมันหล่อลื่นที่จำเลยที่ ๒ นำไปขายโดยทุจริตไม่ เมื่อศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยที่ ๒ ได้นำน้ำมันหล่อลื่น ๑ ถังจากโรงจักรไปจริง ก็ถือได้ว่าจำเลยที่ ๒ ได้นำน้ำมันหล่อลื่นตามฟ้องของโจทก์ไปแล้ว แม้จะปรากฏว่าน้ำมันหล่อลื่นถังดังกล่าวมีน้ำผสมอยู่ก็ไม่อาจถือได้ว่าศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงต่างจากฟ้องคำพิพากษาศาลแรงงานกลางเกี่ยวกับจำเลยที่ ๒ ชอบแล้ว อุทธรณ์ของจำเลยที่ ๒ ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.