แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
โจทก์ระบุชื่อจำเลยในตอนต้นคำฟ้องว่า”สายเดินเรือเมอส์ก กรุงเทพฯ” แต่ในคำบรรยายฟ้องโจทก์ได้กล่าวโดยชัดแจ้งว่าจำเลยหมายถึงบริษัทใดดำเนินธุรกิจในทางใดจดทะเบียนพาณิชย์ไว้ในประเทศไทยโดยใช้ชื่อว่าอะไรสำนักงานตั้งอยู่แห่งใด จนเป็นที่เข้าใจได้แล้วว่าโจทก์ฟ้องบริษัทด.กับบริษัทอ.ซึ่งเป็นนิติบุคคลอยู่ในประเทศเดนมาร์ก และมีสำนักงานสาขาสำหรับดำเนินธุรกิจซึ่งบริษัททั้งสองทำร่วมกันในประเทศไทยโดยใช้ชื่อว่า “สายเดินเรือเมอส์ก สาขากรุงเทพฯ” เป็นจำเลย ดังนี้แม้”สายเดินเรือเมอส์ก สาขากรุงเทพฯ” จะมิได้เป็นนิติบุคคล ก็ไม่เป็นเหตุให้จำเลยไม่อาจถูกฟ้องเป็นจำเลยได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัดรีฟริโกสั่งซื้อสินค้าจากบริษัทอีพีซีไอ คอร์โปเรชั่น จำกัด ในประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งได้จ้างจำเลยหมายถึงบริษัทดัมป์สกิปเซลสกาเบ็ทอาฟ 1912 อักตีเซลสกาป จำกัด และบริษัทอักตีเซลสกาเบ็ท ดัมป์สกิปเซลสกาเบ็ทสเว็นด์บอร์ก จำกัดซึ่งเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายของประเทศเดนมาร์ก ขนส่งสินค้าดังกล่าวมายังประเทศไทยโดยทางทะเล เมื่อจำเลยนำสินค้ามามอบให้ห้างหุ้นส่วนจำกัดรีฟริโก ปรากฏว่าสินค้าสูญหายคิดเป็นเงิน47,662.20 บาท โจทก์ผู้รับประกันความสูญหายและเสียหายของสินค้าดังกล่าวกับผู้ซื้อได้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจำนวนดังกล่าวให้ผู้ซื้อแล้ว จึงรับช่วงสิทธิมาเรียกร้องจากจำเลย ขอให้จำเลยชำระค่าเสียหาย47,662.20 บาท พร้อมดอกเบี้ย จำเลยให้การว่าจำเลยไม่ใช่นิติบุคคลและไม่ใช่สาขาของบริษัทเดินเรือที่โจทก์กล่าวในฟ้องโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยต่อศาลในประเทศไทย ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย 47,662.20 บาท พร้อมดอกเบี้ย จำเลยอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่จำเลยฎีกาว่า จำเลยไม่ใช่นิติบุคคลโจทก์ไม่อาจฟ้องจำเลยได้นั้น เห็นว่า โจทก์ระบุชื่อจำเลยในตอนต้นของคำฟ้องว่า “สายเดินเรือเมอส์ก สาขากรุงเทพฯ” ตามชื่อที่จดทะเบียนพาณิชย์ไว้ แต่ในคำบรรยายฟ้องโจทก์ได้กล่าวให้ทราบโดยแจ้งชัดแล้วว่าจำเลยหมายถึงบริษัทใด ดำเนินธุรกิจในทางใด จดทะเบียนพาณิชย์ไว้ในประเทศไทย โดยใช้ชื่อว่าอะไร สำนักงานตั้งอยู่แห่งใดเมื่อคำฟ้องของโจทก์เป็นที่เข้าใจได้แล้วว่า โจทก์ฟ้องบริษัทดัมป์สกิปเซลสกาเบ็ทอาฟ 1912 อักตีเซลสกาป จำกัดกับบริษัทอักตีเซลสกาเบ็ทดัมป์สกิปเซลสกาเบ็ทสเว็นด์บอร์ก จำกัดซึ่งเป็นนิติบุคคลอยู่ในประเทศเดนมาร์ก และมีสำนักงานสาขาสำหรับดำเนินธุรกิจซึ่งบริษัททั้งสองทำร่วมกันในประเทศไทย โดยใช้ชื่อว่า”สายเดินเรือเมอส์ก สาขากรุงเทพฯ” เป็นจำเลย ดังนี้แม้”สายเดินเรือเมอส์ก สาขากรุงเทพฯ”จะมิได้เป็นนิติบุคคล ก็ไม่เป็นเหตุให้จำเลยไม่อาจถูกฟ้องเป็นจำเลยได้”
พิพากษายืน