คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 288/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ว่าจ้างให้จำเลยที่ 1 ซ่อมเครื่องพิมพ์และเครื่องอัดเพลทจนใช้การได้ เป็นสัญญาจ้างทำของที่จำเลยที่ 1 เป็นผู้จัดหาสัมภาระ แม้ข้อเท็จจริงจะฟังได้ว่า ก่อนโจทก์จะมารับเครื่องพิมพ์และเครื่องอัดเพลท จำเลยที่ 1 ได้ทดลองให้โจทก์เห็นว่า จำเลยที่ 1 ทำการซ่อมเครื่องจนเสร็จแล้ว แต่ตอนโจทก์นำรถยนต์มาขนเครื่องพิมพ์และเครื่องอัดเพลทไปจำเลยที่ 1 ได้ถอดชิ้นส่วนและอะไหล่ตามบัญชีทรัพย์ท้ายฟ้องออกไว้ โดยอ้างว่าเพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องเสียศูนย์โดยการขนย้ายชิ้นส่วนและอะไหล่เหล่านั้นโจทก์มิได้นำสืบให้เห็นว่าเป็นของโจทก์มีมาแต่เดิมอาจเป็นสัมภาระที่จำเลยที่ 1 จัดหามา เมื่อจำเลยที่ 1 ยังมิได้ส่งมอบให้แก่โจทก์ ชิ้นส่วนและอะไหล่จึงยังเป็นทรัพย์ของจำเลยที่ 1 อยู่ หาใช่เป็นของโจทก์ไม่ แม้จำเลยที่ 1 จะไม่นำชิ้นส่วนและอะไหล่ที่ถอดออกไปประกอบเข้ากับเครื่องในภายหลังรูปคดีก็คงฟังได้แต่เพียงจำเลยที่ 1 ผิดสัญญาในทางแพ่ง หาเป็นความผิดอาญาฐานยักยอกดังฟ้องไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้นำเครื่องพิมพ์พร้อมเครื่องอัดเพลงที่ชำรุดไปให้จำเลยทั้งสองซ่อมแซม และจำเลยทั้งสองได้รับเงินทั้งหมดแล้วโจทก์ได้ไปรับเครื่องพิมพ์ จำเลยร่วมกันเบียดบังเอาเครื่องอุปกรณ์เครื่องพิมพ์นั้นของโจทก์ไปโดยสุจริต ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352, 91, 83

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่าคดีมีมูลให้ประทับฟ้อง

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 จำคุก 5 เดือน สำหรับจำเลยที่ 2 ให้ยกฟ้อง

จำเลยที่ 1 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องสำหรับจำเลยที่ 1 ด้วย

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้ตามที่โจทก์จำเลยนำสืบว่าเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 โจทก์ได้นำเครื่องพิมพ์ 2 เครื่อง เครื่องอัดเพลท 2 เครื่องยี่ห้อโรตาปริ้นซึ่งเป็นเครื่องเก่าใช้แล้วมาว่าจ้างให้จำเลยที่ 1 ทำการล้างและซ่อมแซมให้ใช้งานได้ จำเลยที่ 1 ตกลงรับจ้างและรับมอบเครื่องพิมพ์กับเครื่องอัดเพลทดังกล่าวของโจทก์ไว้ ต่อมาเมื่อจำเลยที่ 1 ได้จัดการซ่อมจนเครื่องใช้งานได้เรียบร้อย โจทก์ก็มารับเอาเครื่องทั้งหมดไป

ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยในชั้นฎีกาคงมีว่า จำเลยที่ 1 กระทำความผิดดังฟ้องหรือไม่ พิเคราะห์เห็นว่า การที่โจทก์ว่าจ้างให้จำเลยที่ 1 ทำการซ่อมเครื่องพิมพ์และเครื่องอัดเพลทจนใช้การได้เป็นสัญญาจ้างทำของที่จำเลยที่ 1 เป็นผู้จัดหาสัมภาระแม้ข้อเท็จจริงฟังได้ดังโจทก์นำสืบว่า ก่อนโจทก์จะมารับเครื่องพิมพ์และเครื่องอัดเพลท จำเลยที่ 1 ได้ทดลองให้โจทก์เห็นว่า จำเลยที่ 1 ทำการซ่อมเครื่องจนแล้วเสร็จแต่ตอนโจทก์นำรถยนต์มาขนเครื่องพิมพ์และเครื่องอัดเพลทไป จำเลยที่ 1 ได้ถอดชิ้นส่วนและอะไหล่ตามบัญชีทรัพย์ท้ายฟ้องออกไว้ก่อนแล้วทั้งสองคราว เมื่อโจทก์สอบถาม จำเลยที่ 1 ก็ว่าต้องถอดไว้เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องเสียศูนย์โดยการขนย้ายชิ้นส่วนและอะไหล่เหล่านั้นโจทก์มิได้นำสืบให้เห็นว่าเป็นของโจทก์มีมาแต่เดิม ฉะนั้นชิ้นส่วนและอะไหล่ดังกล่าวอาจเป็นสัมภาระที่จำเลยที่ 1 จัดหามาได้ดังศาลอุทธรณ์วินิจฉัย เมื่อจำเลยที่ 1 ยังมิได้ส่งมอบให้แก่โจทก์ ชิ้นส่วนและอะไหล่จึงยังเป็นทรัพย์ของจำเลยที่ 1 อยู่ หาใช่เป็นของโจทก์ไม่ แม้จำเลยที่ 1 จะไม่นำชิ้นส่วนและอะไหล่ที่ถอดออกไปประกอบเข้ากับเครื่องในภายหลัง รูปคดีก็คงฟังได้แต่เพียงจำเลยที่ 1 ผิดสัญญาในทางแพ่ง หาเป็นความผิดทางอาญาฐานยักยอกดังฟ้องไม่

พิพากษายืน

Share