คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2868/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยมีอาวุธปืนพกชนิดประกอบขึ้นใช้กับกระสุนปืนขนาด .223 โดยเฉพาะและกระสุนปืน 1 นัด ขนาด .223 ซึ่งบรรจุอยู่ในอาวุธปืนนั้น แม้จะฟังได้ว่ากระสุนปืนนั้นเป็นเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ตามกฎกระทรวง ส่วนอาวุธปืนตามฟ้องและทางพิจารณาของโจทก์ไม่ปรากฏว่าเป็นอาวุธปืนที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ได้หรือไม่ ก็เป็นที่เห็นได้ว่าเจตนาของจำเลยในการมีอาวุธปืนและกระสุนปืนนั้น เป็นการมีไว้เพื่อประสงค์อันเดียวกัน การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดกฎหมายหลายบทหลายกรรมต่างกันคือ จำเลยมีอาวุธปืนพกชนิดประกอบขึ้นใช้กับกระสุนปืนเล็กกลขนาด .๒๒๓ จำนวน ๑ กระบอก ซึ่งไม่มีหมายเลขทะเบียนของเจ้าพนักงานประทับไว้และมีกระสุนปืนเล็กกลขนาด .๒๒๓ จำนวน ๓ นัด ซึ่งไม่ใช่เครื่องกระสุนปืนสำหรับใช้กับอาวุธปืนที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในความครอบครองของจำเลยโดยไม่ได้รับอนุญาตและฝ่าฝืนกฎหมาย จำเลยพาอาวุธปืนและกระสุนปืนซึ่งมีไว้ดังกล่าวติดตัวไปในหมู่บ้านและทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือการยกเว้นตามกฎหมาย และจำเลยได้ใช้อาวุธปืนและกระสุนปืนดังกล่าวยิงนายสุพรรณ ชุลบุตร ๑ นัด และนายมนัส คำยอด ๒ นัด โดยเจตนาฆ่า จำเลยกระทำไปตลอดแล้วแต่การกระทำนั้นไม่บรรลุผลเพราะกระสุนปืนไม่ลั่น ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๔, ๖, ๗, ๘ ทวิ, ๕๕, ๗๒, ๗๒ ทวิ, ๗๘ ฯลฯ กฎกระทรวงฉบับที่ ๑๑ (พ.ศ. ๒๕๒๒) ออกตามความในพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ พ.ศ. ๒๔๙๐ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๓๗๑, ๙๑ ๘๐ และริบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง แต่ให้ริบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของกลาง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๗, ๘ ทวิ, ๗๒, ๗๒ ทวิ, ๗๘ฯลฯ ลงโทษฐานมีอาวุธปืน จำคุก ๑ ปี ฐานมีเครื่องกระสุนปืนชนิดที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ จำคุก ๒ ปี ฐานพาอาวุธปืนติดตัวไป จำคุก ๖ เดือน รวมจำคุก ๓ ปี ๖ เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า จำเลยมีอาวุธปืนและกระสุนปืนขนาด .๒๒๓ จำนวน ๑ นัด และพาติดตัวไปในหมู่บ้านโดยไม่ได้รับใบอนุญาต และวินิจฉัยข้อกฎหมายว่าอาวุธปืนของกลางเป็นปืนพกชนิดประกอบขึ้นใช้กับกระสุนปืนขนาด .๒๒๓ โดยเฉพาะ และกระสุนปืน ๑ นัด ซึ่งบรรจุอยู่ในอาวุธปืนของกลางก็เป็นกระสุนปืนขนาด .๒๒๓ แม้ข้อเท็จจริงจะฟังได้ว่ากระสุนปืนของกลางเป็นเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๑ (พ.ศ. ๒๕๒๒) ข้อ ๓ ส่วนอาวุธปืนของกลางนั้นตามฟ้องของโจทก์และทางพิจารณาไม่ปรากฏว่าเป็นอาวุธปืนที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ได้หรือไม่ ก็เป็นที่เห็นได้ว่าเจตนาของจำเลยในการมีอาวุธปืนและกระสุนปืนของกลางนั้นเป็นการมีไว้เพื่อความประสงค์อันเดียวกัน การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียว อันเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท
พิพากษาแก้เป็นว่า ความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ให้ลงโทษบทหนักที่สุดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๗๘ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๘ ประกอบกับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๐ จำคุก ๒ ปี ฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปในหมู่บ้าน จำคุก ๖ เดือน รวมเป็นจำคุก ๒ ปี ๖ เดือน นอกจากที่แก้ไขให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share