คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2847/2523

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยทราบว่า ต. เป็นหญิงมีสามี แต่ก็ยังร่วมหลับนอนด้วย เมื่อจำเลยล่วงเกิน ต. ภริยาโจทก์ในทำนองชู้สาวจึงถือว่าจำเลยละเมิดสิทธิต่อโจทก์ ทำให้โจทก์เสียหายต้องใช้ค่าทดแทน

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้เงิน 117,800 บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยไม่ต้องรับผิดค่าเสียหายที่ต้องจ้างแม่บ้านมาดูแลบ้านและบุตร พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยใช้ค่าทดแทน 80,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติได้ว่า โจทก์เป็นสามีนางเตือนใจ สุนทรพลิน โดยชอบด้วยกฎหมาย ในวันเวลาเกิดเหตุ โจทก์ไปพบนางเตือนใจอยู่กับจำเลยในห้องพักที่โรงแรมมรกต ปัญหาชั้นฎีกามีว่าจำเลยกระทำละเมิดสิทธิต่อโจทก์หรือไม่ ข้อนี้โจทก์เบิกความยืนยันว่าได้รับโทรศัพท์ว่านางเตือนใจภริยาโจทก์ไปหลับนอนกับจำเลยอยู่ที่โรงแรมมรกต โจทก์จึงเดินทางไปยังโรงแรมดังกล่าว พบนางเตือนใจภริยาอยู่กับจำเลยในห้องนอนสองต่อสองโดยนุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวออกมาจากตู้เสื้อผ้า เมื่อพากันไปสถานีตำรวจนครบาลมักกะสัน พนักงานสอบสวนได้บันทึกไว้ในรายงานประจำวันตามเอกสารหมาย จ.2 ว่าโจทก์แจ้งว่าจำเลยกับภริยาโจทก์มาเช่าห้องพักโรงแรมหลับนอนกัน นางเตือนใจภริยาโจทก์อ้างว่าโจทก์มีภริยาน้อยทอดทิ้งตนจึงได้มาอยู่กับจำเลย ซึ่งฝ่ายจำเลยมิได้โต้แย้งแต่อย่างใด ยอมลงชื่อในบันทึกดังกล่าวโดยดี พฤติการณ์ของจำเลย ส่อให้เห็นว่าจำเลยทราบว่านางเตือนใจผู้นี้เป็นหญิงมีสามี แต่จำเลยก็ยังร่วมหลับนอนด้วย ที่จำเลยฎีกาอ้างว่าจำเลยยุ่งเกี่ยวกับนางเตือนใจเป็นลักษณะการค้าประเวณีนั้น จำเลยก็มิได้ให้การต่อสู้ไว้แต่อย่างใด เมื่อจำเลยล่วงเกินภริยาโจทก์ในทำนองชู้สาวจึงถือว่าจำเลยละเมิดสิทธิต่อโจทก์ทำให้โจทก์เสียหาย”

พิพากษายืน

Share