แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
โจทก์และจำเลยตกลงกันขนส่งสินค้าโดยให้เก็บค่าระวางและค่าใช้จ่ายส่วนที่ 2จากผู้ซื้อที่ปลายทาง แต่ไม่ได้ตกลงกันว่าในกรณีที่โจทก์ซึ่งเป็นผู้ขนส่งเรียกเก็บไม่ได้โจทก์สิ้นสิทธิที่จะเรียกร้องเอาจากจำเลย ในใบตราส่งก็ไม่มีเงื่อนไขว่าหากเรียกเก็บจากผู้ซื้อไม่ได้แล้วโจทก์หมดสิทธิเรียกเอาจากจำเลยซึ่งเป็นผู้ส่ง ดังนั้น โจทก์จึงฟ้องจำเลยในฐานคู่สัญญาให้รับผิดชดใช้ค่าระวางและค่าใช้จ่ายส่วนที่ยังไม่ได้รับชำระได้ และเมื่อโจทก์ทวงถามแล้วจำเลยไม่ชำระ จำเลยต้องรับผิดชำระดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5ต่อปี นับแต่วันผิดนัดแก่โจทก์อีกด้วย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 224
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อเดือนกรกฎาคม 2542 จำเลยว่าจ้างโจทก์ให้ขนส่งสินค้าทางอากาศจากประเทศไทยไปส่งมอบให้แก่ผู้ซื้อที่ประเทศสหรัฐอเมริการวม 6 เที่ยวโดยจำเลยตกลงชำระค่าระวางเครื่องบินและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ต้นทาง และจำเลยขอให้โจทก์เรียกเก็บค่าระวางเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกให้โจทก์เรียกเก็บจากจำเลย ส่วนที่เหลือให้โจทก์เรียกเก็บจากผู้ซื้อแทน หลังจากโจทก์ขนส่งสินค้าไปส่งมอบให้แก่ผู้ซื้อเรียบร้อยแล้วทุกเที่ยว คิดเป็นค่าขนส่งจำนวน 1,952,347.82 บาท โจทก์เรียกเก็บเงินไปยังจำเลยจำนวน 1,522,442.82 บาท และเรียกเก็บไปยังผู้ซื้ออีกจำนวน 429,905 บาท จำเลยชำระเงินแล้ว แต่ผู้ซื้อปฏิเสธ โจทก์จึงทวงถามเอาแก่จำเลยในฐานะที่เป็นคู่สัญญากับโจทก์ แต่จำเลยเพิกเฉย จำเลยในฐานะคู่สัญญาขนส่งกับโจทก์ต้องรับผิดชำระเงินจำนวน429,905 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่โจทก์ได้เรียกเก็บเงินครั้งสุดท้าย คือ วันที่ 3 สิงหาคม 2542 เป็นต้นไปโดยคิดถึงวันฟ้องเป็นดอกเบี้ยจำนวน 28,523.73 บาท เมื่อรวมเข้ากับต้นเงินแล้วเป็นเงินทั้งสิ้น 458,437.73 บาทขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวน 458,437.73 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ7.5 ต่อปี ของต้นเงินจำนวน 429,905 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยไม่มีนิติสัมพันธ์กับโจทก์ จำเลยมีภาระต้องส่งสินค้าทั้งหมดโดยทางทะเล แต่ผู้รับต้องการได้รับสินค้าเร็วกว่ากำหนด จึงให้โจทก์รับสินค้าจากจำเลยไปส่งทางอากาศ โดยผู้รับกับโจทก์ตกลงให้โจทก์เก็บค่าขนส่งจากผู้รับบางส่วนและจากจำเลยบางส่วน ซึ่งจำเลยได้ชำระค่าขนส่งในส่วนที่จำเลยยอมรับผิดหมดสิ้นแล้ว ส่วนหนี้ตามคำฟ้องเป็นหนี้ในส่วนที่โจทก์ตกลงเก็บจากผู้รับสินค้า ซึ่งหากเก็บไม่ได้ โจทก์ต้องรับผิดชอบเอง โจทก์ไม่ได้บอกกล่าวทวงถามให้ชำระหนี้ก่อน โดยหนังสือบอกกล่าวทวงถามและใบตอบรับส่งถึงกรรมการผู้จัดการบริษัทจำเลยเท่านั้น ไม่ได้ส่งให้บริษัทจำเลยโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า”พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงที่คู่ความรับกันและไม่โต้แย้งกันในชั้นนี้รับฟังได้เป็นยุติว่าจำเลยซึ่งเป็นผู้ขายสินค้าว่าจ้างโจทก์ให้ขนส่งสินค้าทางอากาศจากประเทศไทยไปส่งแก่ผู้ซื้อสินค้าที่ประเทศสหรัฐอเมริการวม 6 เที่ยว รายละเอียดข้อตกลงในการขนส่งปรากฏตามใบตราส่งทางอากาศเอกสารหมาย จ.3 ถึง จ.8 นอกจากนี้จำเลยและโจทก์ตกลงกันให้คิดค่าระวางและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ รวมเป็นเงิน จำนวน 1,952,347.82 บาท แบ่งชำระเป็น 2 ส่วน ส่วนที่ 1 จำนวน 1,522,442.82 บาท เรียกเก็บจากจำเลย ส่วนที่ 2จำนวน 429,905 บาท เรียกเก็บจากผู้ซื้อที่ปลายทาง โจทก์ขนส่งสินค้าของจำเลยไปส่งให้แก่ผู้ซื้อสินค้าเรียบร้อยแล้วและจำเลยชำระค่าระวางและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แก่โจทก์เป็นเงิน 1,522,442.82 บาท แล้ว ส่วนที่ขาดอีกจำนวน 429,905 บาท โจทก์เรียกเก็บจากผู้ซื้อสินค้าไม่ได้เพราะผู้ซื้อไม่ยอมชำระให้ จึงให้ทนายความมีหนังสือเรียกเก็บจากจำเลยและจำเลยได้รับหนังสือของทนายความแล้วเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2543 แต่จำเลยไม่ชำระภายใน 7 วัน ตามกำหนด
ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์มีเพียงประการเดียวว่า จำเลยต้องรับผิดชำระค่าระวางและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ส่วนที่ขาดอีกจำนวน 429,905 บาท แก่โจทก์หรือไม่เห็นว่า แม้โจทก์และจำเลยจะตกลงกันให้เก็บค่าระวางและค่าใช้จ่ายส่วนที่ 2 จำนวน429,905 บาท จากผู้ซื้อที่ปลายทาง แต่ก็ไม่ได้ตกลงกันไว้ว่า ในกรณีที่โจทก์เรียกเก็บส่วนที่ 2 จำนวน 429,905 บาท จากผู้ซื้อที่ปลายทางไม่ได้ โจทก์สิ้นสิทธิที่จะเรียกร้องเอาจากจำเลย ในใบตราส่งเอกสารหมาย จ.3 ถึง จ.8 ก็ระบุในช่องค่าระวางไว้แต่เพียงว่าค่าระวางมี 2 ส่วน คือส่วนที่ชำระล่วงหน้า และส่วนที่เรียกเก็บ โดยไม่ได้ระบุจำนวนค่าระวางไว้ และไม่ได้มีเงื่อนไขใด ๆ ว่า หากเรียกเก็บจากผู้ซื้อไม่ได้แล้ว โจทก์หมดสิทธิเรียกเอาจากจำเลยซึ่งเป็นผู้ส่ง ดังนั้น เมื่อโจทก์ผู้ขนส่งกับจำเลยผู้ส่งเป็นคู่สัญญาตามสัญญารับขนของทางอากาศกันโดยตรง โจทก์จึงฟ้องจำเลยในฐานคู่สัญญาให้รับผิดชดใช้ค่าระวางและค่าใช้จ่ายส่วนที่ยังไม่ได้รับชำระได้ จำเลยจึงต้องรับผิดชำระค่าระวางและค่าใช้จ่ายส่วนที่ขาดอีกจำนวน 429,905 บาท แก่โจทก์ เมื่อโจทก์ทวงถามแล้วและจำเลยไม่ชำระภายในกำหนด 7 วัน นับแต่วันที่จำเลยได้รับหนังสือทวงถามเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2543 ตามที่หนังสือทนายความเอกสารหมาย จ.15 ให้เวลาไว้ถือได้ว่าจำเลยเป็นผู้ผิดนัดต้องรับผิดชำระดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่12 กรกฎาคม 2543 อันเป็นวันผิดนัดแก่โจทก์อีกด้วย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 224 ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษายกฟ้องมานั้น ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศไม่เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของโจทก์ฟังขึ้น”
พิพากษากลับ ให้จำเลยชำระเงินจำนวน 429,905 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 12 กรกฎาคม 2543 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์