คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2842/2537

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

บทนิยามคำว่า “จำหน่าย” ตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษฯ หมายถึง การจำหน่ายให้แก่บุคคลภายนอกที่มิใช่ผู้ร่วมกระทำความผิดด้วยกัน ดังนั้น เมื่อโจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันมีเฮโรอีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงเป็นเรื่องจำเลยทั้งสองเป็นตัวการร่วมกันกระทำความผิดการที่โจทก์นำสืบว่าตามวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุ จำเลยที่ 2นำเฮโรอีนของกลางมาส่งมอบให้จำเลยที่ 1 นั้น จึงเป็นการส่งมอบเฮโรอีนของกลางระหว่างตัวการผู้กระทำผิดร่วมกัน มิใช่เป็นการจำหน่ายตามบทนิยามดังกล่าว ทั้งเฮโรอีนของกลางมีจำนวนเพียง18.02 กรัม ไม่เข้าข้อสันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งต้องมีถึง 20 กรัม ตามมาตรา 15 วรรคสอง แม้จำเลยที่ 2จะให้การรับสารภาพก็ลงโทษในความผิดฐานนี้ไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันมีเฮโรอีนอันเป็นยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรงในประเภท 1 จำนวน 15 หลอด ปริมาณหนัก 18.02 กรัมไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติ ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 15, 66, 102ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ริบของกลางที่เหลือจากการตรวจพิสูจน์
จำเลยที่ 1 ให้การรับว่ามีเฮโรอีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อเสพแต่ปฏิเสธว่าไม่ได้มีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ส่วนจำเลยที่ 2ให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามพระราชบัญญัติ ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 15 วรรคแรก, 67จำเลยที่ 2 มีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522มาตรา 4, 7, 15 วรรคแรก, 66 วรรคแรก ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1มีกำหนด 8 ปี จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 16 ปี จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพตามที่พิจารณาได้ความและจำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพตามฟ้อง เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้คนละกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกจำเลยที่ 1กำหนด 4 ปี จำคุกจำเลยที่ 2 กำหนด 8 ปี เฮโรอีนของกลางที่เหลือจากการตรวจพิสูจน์เป็นทรัพย์สินที่มีไว้เป็นความผิดจึงให้ริบตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 102 ความผิดฐานอื่นสำหรับจำเลยที่ 1 ให้ยก
จำเลยที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่าตามวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุตามฟ้อง จำเลยที่ 2 ขับรถจักรยานยนต์นำเฮโรอีนมาส่งมอบให้จำเลยที่ 1 เจ้าพนักงานตำรวจเข้าจับกุมจำเลยทั้งสอง พร้อมกับยึดได้เฮโรอีนเป็นของกลาง คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยที่ 2 ว่า จำเลยที่ 2 กระทำผิดตามฟ้องหรือไม่ ในข้อนี้จำเลยที่ 2 ฎีกาว่า จำเลยที่ 2 มีเฮโรอีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อเสพมิได้เพื่อจำหน่าย เห็นว่า จำเลยที่ 2อุทธรณ์ปัญหาข้อนี้ต่อศาลอุทธรณ์ แต่ศาลอุทธรณ์มิได้วินิจฉัยให้จึงเป็นการไม่ชอบ แต่ศาลฎีกาเห็นสมควรวินิจฉัยปัญหานี้ไปโดยไม่ต้องย้อนสำนวนให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยก่อน ในปัญหานี้โจทก์บรรยายฟ้องยืนยันว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันมีเฮโรอีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามคำฟ้องโจทก์จึงเป็นเรื่องจำเลยทั้งสองเป็นตัวการร่วมกันกระทำความผิด ดังนั้นที่โจทก์นำสืบว่าตามวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุ จำเลยที่ 2 นำเฮโรอีนของกลางมาส่งมอบให้จำเลยที่ 1 นั้น จึงเป็นการส่งมอบเฮโรอีนของกลางระหว่างตัวการผู้กระทำผิดร่วมกัน จะถือว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการจำหน่ายเฮโรอีนตามบทนิยามคำว่าจำหน่าย ตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ดังที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยไม่ได้ เพราะการจำหน่ายตามบทบัญญัติกฎหมายดังกล่าว หมายถึงการจำหน่ายให้แก่บุคคลภายนอกที่มิใช่ผู้ร่วมกระทำผิดด้วยกัน และการกระทำดังกล่าวก็มิใช่ข้อบ่งชี้ว่าจำเลยที่ 2 มีเจตนามีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายตามฟ้องเพราะกรณีอาจเป็นเรื่องจำเลยทั้งสองร่วมกันออกเงินไปซื้อเฮโรอีนมาเสพตามที่ให้การไว้ในชั้นสอบสวนก็เป็นได้นอกจากนี้เฮโรอีนของกลางมีจำนวนเพียง 18.02 กรัม ไม่ถึง 20 กรัมไม่เข้าข้อสันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายตามมาตรา15 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 พยานหลักฐานโจทก์จึงไม่มีน้ำหนักรับฟังว่าจำเลยที่ 2 มีเฮโรอีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายตามฟ้อง แม้จำเลยที่ 2 จะให้การรับสารภาพก็ลงโทษในความผิดฐานนี้ไม่ได้ จำเลยที่ 2 คงมีความผิดฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 2 ในความผิดฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายมานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาจำเลยที่ 2 ฟังขึ้น”
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 2 มีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 15 วรรคแรก, 67 ให้จำคุกจำเลยที่ 2 กำหนด 8 ปี จำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78คงจำคุกจำเลยที่ 2 กำหนด 4 ปี นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share