คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2837/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่โจทก์นำรถยนต์ไปจอดฝากไว้ที่ปั๊มน้ำมันของจำเลยโดยเสียค่าฝาก 10 บาทต่อวัน เป็นการฝากทรัพย์ แม้จำเลยจะได้ประกาศว่า จะไม่รับผิดชอบในการสูญหายหรือเสียหายใด ๆ และลูกจ้างของโจทก์เป็นผู้เก็บกุญแจรถไว้ ก็ไม่ทำให้จำเลยพ้นจากการรับผิด และกรณีเช่นนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องจำเลยให้โจทก์เช่าสถานที่จอดรถ
นิติบุคคลจะมีวัตถุประสงค์ในการรับฝากทรัพย์หรือไม่ก็ตาม เมื่อรับฝากทรัพย์ไว้และได้รับบำเหน็จค่าฝากตลอดมา จะปลีกตนให้พ้นความรับผิดหาได้ไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ที่ ๒ ได้นำรถยนต์ไปฝากไว้ที่ปั๊มน้ำมันของจำเลยทั้งสองโดยจำเลยเก็บค่าบริการเกี่ยวกับการรับฝากวันละ ๑๐ บาท รถยนต์ของโจทก์ซึ่งฝากไว้กับจำเลยได้ถูกคนร้ายลักไป จำเลยไม่สามารถติดตามรถคืนให้แก่โจทก์และบิดพลิ้วไม่ชำระค่าสินไหมทดแทนให้ โจทก์ที่ ๑ ผู้รับประกันภัยรถยนต์ดังกล่าวได้ชดใช้ค่าเสียหายบางส่วนให้แก่โจทก์ที่ ๒ แล้ว ขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ทั้งสอง
จำเลยให้การว่าจำเลยที่ ๑ ไม่มีวัตถุประสงค์ในการประกอบกิจการค้าด้วยวิธีรับฝากรถยนต์ จำเลยมิได้ทำสัญญาฝากรถยนต์กับโจทก์ จำเลยยินยอมให้โจทก์นำรถยนต์ไปจอดเก็บไว้ที่ปั๊มน้ำมันของจำเลยโดยจำเลยคิดค่าจอดเป็นคราว ๆ และโจทก์ก็ทราบประกาศของจำเลยแล้วว่าจำเลยจะไม่ต้องรับผิดชอบในความสูญหายหรือเสียหายใด ๆ ต่อรถยนต์ที่นำมาฝาก
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ทั้งสอง แต่ให้ค่าเสียหายไม่เต็มตามฟ้อง
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า รถยนต์ที่หายนั้นโจทก์ได้ให้ลูกจ้างเอาไปจอดฝากไว้ที่ปั๊มน้ำมันของจำเลย เสียค่าฝาก ๑๐ บาทต่อวัน พฤติการณ์เช่นนี้เป็นการรับฝากทรัพย์เพราะเท่ากับโจทก์ที่ ๒ ได้ส่งมอบรถยนต์ไว้แก่จำเลยและจำเลยตกลงว่าจะเก็บรักษารถยนต์นั้นไว้ในอารักขาแห่งตนแล้วจะคืนให้ ข้อความในประกาศของจำเลยที่ว่าจำเลยไม่รับผิดชอบในการสูญหายหรือเสียหายใด ๆ แก่รถที่จอดไว้ทั้งสิ้นก็ดี การที่ลูกจ้างของโจทก์ที่ ๒ เอากุญแจรถไว้กับตนก็ดี ไม่เป็นเครื่องแสดงว่าเป็นเรื่องที่จำเลยให้โจทก์เช่าสถานที่สำหรับจอดรถชั่วคราว
จำเลยที่ ๑ ซึ่งเป็นนิติบุคคลจะมีวัตถุประสงค์ในการรับฝากทรัพย์หรือไม่ก็ตาม เมื่อจำเลยที่ ๑ รับฝากทรัพย์ไว้และได้รับบำเหน็จค่าฝากตลอดมา จำเลยที่ ๑ จะปลีกตนให้พ้นความรับผิดหาได้ไม่
พิพากษายืน.

Share