แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความผิดฐานเป็นซ่องโจรจะต้องมีการสมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่บัญญัติไว้การสมคบกันจะต้องมีการแสดงออกซึ่งความตกลงในการที่จะกระทำผิดร่วมกัน มิใช่เพียงแต่มาประชุมหารือกันโดยมิได้ตกลงอะไรกันเลยหรือตกลงกันไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปเป็นซ่องโจรเพื่อปล้นทรัพย์รถยนต์บรรทุกน้ำตาลและน้ำตาล ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 210, 83
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 210, 83
จำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ยกฟ้องเฉพาะจำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า ความผิดฐานเป็นซ่องโจรจะต้องมีการสมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่บัญญัติไว้ การสมคบกันจะต้องมีการแสดงออกซึ่งความตกลงในการที่จะกระทำผิดร่วมกัน มิใช่เพียงแต่มาประชุมหารือกันโดยมิได้ตกลงอะไรกันเลยหรือตกลงกันไม่ได้ และข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 จะอยู่ในการประชุมและได้มีการประชุมหารือวางแผนการเกี่ยวกับการที่จะร่วมกันกระทำผิดจึงลงโทษไม่ได้
พิพากษายืน