คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2829/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความผิดฐานเป็นซ่องโจรจะต้องมีการสมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่บัญญัติไว้ การสมคบกันจะต้องมีการแสดงออกซึ่งความตกลงในการที่จะกระทำผิดร่วมกัน มิใช่เพียงแต่มาประชุมหารือกันโดยมิได้ตกลงอะไรกันเลยหรือตกลงกันไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันตั้งแต่ ๕ คนขึ้นไปเป็นซ่องโจรเพื่อปล้นทรัพย์รถยนต์บรรทุกน้ำตาลและน้ำตาล ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๑๐, ๘๓
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๑๐, ๘๓
จำเลยที่ ๒ ที่ ๓ และที่ ๔ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ยกฟ้องเฉพาะจำเลยที่ ๒ ที่ ๓ และที่ ๔
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า ความผิดฐานเป็นซ่องโจรจะต้องมีการสมคบกันตั้งแต่ ๕ คนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่บัญญัติไว้ การสมคบกันจะต้องมีการแสดงออกซึ่งความตกลงในการที่จะกระทำผิดร่วมกัน มิใช่เพียงแต่มาประชุมหารือกันโดยมิได้ตกลงอะไรกันเลยหรือตกลงกันไม่ได้ และข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ ๒ ที่ ๓ และที่ ๔ จะอยู่ในการประชุมและได้มีการประชุมหารือวางแผนการเกี่ยวกับการที่จะร่วมกันกระทำผิดจึงลงโทษไม่ได้
พิพากษายืน

Share