คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2815/2529

แหล่งที่มา : ADMIN

ย่อสั้น

จำเลยเข้าใจมาแต่แรกว่ายาที่ผู้เสียหายให้นายต.ไปเป็นยาเสพติดให้โทษขณะที่จำเลยเข้าไปในกุฏิของพระภิกษุว.ผู้เสียหายนายถ.อยู่ในกุฏิของผู้เสียหายและหยิบยามาดูจำเลยเห็นยาดังกล่าวเข้าใจว่าเป็นยาเสพติดให้โทษจึงหยิบเอามาเพื่อไม่ให้ผู้เสียหายมีไว้ในความครอบครองและจะเอาไปให้เจ้าอาวาสดูดังนี้เป็นการเข้าไปโดยมีเหตุอันสมควรไม่มีความผิดฐานบุกรุก.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบุกรุกเข้าไปในกุฏิวัดหนองสองห้องอันเป็นเคหสถานที่อยู่อาศัยของพระภิกษุวันชัยผู้เสียหาย โดยไม่ได้รับอนุญาตและโดยไม่มีเหตุอันสมควรและจำเลยได้ใช้กำลังทำร้ายชกต่อยผู้เสียหาย 1 ที จนได้รับบาดเจ็บเป็นอันตรายแก่กาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 364, 365, 395, 91ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2514 ข้อ 2 จำเลยให้การปฏิเสธ หลังจากสืบพยานโจทก์เสร็จแล้วจำเลยถอนคำให้การเดิมรับสารภาพฐานทำร้ายร่างกาย ปฏิเสธความผิดฐานบุกรุก ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 364, 395 ให้ลงโทษตามมาตรา 365 ซึ่งเป็นบทหนัก จำคุก 3 ปี คำรับสารภาพชั้นสอบสวนกับคำรับสารภาพชั้นพิจารณาในข้อหาทำร้ายร่างกายเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาอยู่บ้าง เป็นเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 หนึ่งในสาม คงจำคุก 2 ปี คำขออื่นให้ยก โจทก์อุทธรณ์ ขอให้ลงโทษทุกกรรมความผิดตามฟ้อง จำเลยอุทธรณ์ ขอให้ยกฟ้องข้อหาบุกรุก ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้แต่เพียงว่าจำเลยเข้าไปที่บริเวณกุฏิเท่านั้น ไม่ได้เข้าไปในห้องกุฏิของผู้เสียหาย พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 จำคุก 1 ปี คำรับสารภาพของจำเลยชั้นสอบสวนและชั้นพิจารณาเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาอยู่บ้าง เป็นเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 หนึ่งในสาม คงจำคุก 8 เดือนคำขออื่นให้ยก โจทก์ฎีกา ขอให้ลงโทษจำเลยทุกกรรมความผิดตามฟ้อง ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ตามคำพยานหลักฐานของโจทก์ว่าจำเลยได้เข้าไปในกุฏิของผู้เสียหายแล้วหยิบเอายาของผู้เสียหายไป ตามพฤติการณ์จำเลยเข้าใจมาแต่แรกว่ายาที่ผู้เสียหายให้นายตุ้มไปเป็นยาเสพติดให้โทษ ขณะที่จำเลยเข้าไปในกุฏิของผู้เสียหายนั้น นายถนอมก็อยู่ในกุฏิของผู้เสียหายและหยิบยามาดูจำเลยเห็นยาซึ่งเข้าใจว่าเป็นยาเสพติดให้โทษ จึงหยิบเอามาเพื่อไม่ให้ผู้เสียหายมีไว้ในความครอบครองและจะเอาไปให้เจ้าอาวาสดู การที่จำเลยเข้าไปในกุฏิของผู้เสียหายจึงเป็นการเข้าไปโดยมีเหตุอันสมควร ไม่เป็นความผิดฐานบุกรุก พิพากษายืน

Share