คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2812/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ปัญหาว่า คำร้องของผู้ร้องชอบด้วยมาตรา 78 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2522หรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน
การคัดค้านการเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งใดเขตเลือกตั้งหนึ่งมาตรา 78 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งฯ ได้จำกัดประเภทของบุคคลผู้มีสิทธิยื่นคำร้องคัดค้านไว้ ได้แก่ ผู้เลือกตั้ง ผู้สมัคร และพรรคการเมืองซึ่งมีสมาชิกสมัครรับเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้น โดยให้มีสิทธิยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลภายในระยะเวลาที่กำหนด ทั้งนี้ในกรณีที่เห็นว่าการเลือกตั้งหรือการที่บุคคลใดได้รับการเลือกตั้ง เป็นไปโดยมิชอบ อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 26,32,34,51 หรือมาตรา 52 ด้วย ซึ่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งฯ มาตรา 26 บัญญัติว่าห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเข้าสมัครรับเลือกตั้งและการฝ่าฝืนมีโทษตามมาตรา 84 คำร้องของผู้ร้องมีใจความสำคัญเพียงว่า ในวันยื่นใบสมัครรับเลือกตั้งผู้คัดค้านที่ 1 ผู้สมัครยังดำรงตำแหน่งกำนันตำบลอิสาณและนายทะเบียนตำบลอิสาณ เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 96(7) ที่ว่าเป็นพนักงานของหน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ ขอให้มีคำสั่งว่าการได้รับการเลือกตั้งเป็นไปโดยมิชอบ และสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่เท่านั้น คำร้องมิได้แสดงโดยแจ้งชัดแห่งข้อหาว่า การที่ผู้คัดค้านที่ 1 ได้รับการเลือกตั้งเป็นไปโดยมิชอบ นั้นเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 26 ตามที่ระบุไว้ในมาตรา 78 อย่างไร กล่าวคือมิได้บรรยายข้อเท็จจริงว่าผู้คัดค้านที่ 1 ได้รู้แล้ว ว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เพราะเป็นบุคคลต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญฯมาตรา 96(7) แล้วยังเข้าสมัครรับเลือกตั้งอีก ฉะนั้นคำร้องของผู้ร้องซึ่งบรรยายอ้างถึงแต่คุณสมบัติของบุคคลที่ต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญฯ แต่อย่างเดียว จึงเป็นคำร้องที่ไม่ชอบด้วย มาตรา 78 ไม่มีเหตุที่จะรับไว้เพื่อพิจารณาวินิจฉัย ชอบที่จะมีคำสั่งยกคำร้องของผู้ร้องเสีย

ย่อยาว

ผู้ร้องที่ 1 และที่ 2 ยื่นคำร้องและแก้ไขคำร้องว่า ผู้ร้องทั้งสองเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในเขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดบุรีรัมย์ ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2522 ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ได้ประกาศผลการเลือกตั้งว่า นายชัยเป็นผู้ได้รับเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งดังกล่าว แต่โดยเหตุที่ในวันที่นายชัยยื่นใบสมัครรับเลือกตั้ง นายชัยยังดำรงตำแหน่งกำนันตำบลอิสาณ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์และเพิ่งยื่นใบลาออกจากตำแหน่งในภายหลัง นอกจากนี้ยังดำรงตำแหน่งนายทะเบียนตำบลอิสาณซึ่งเป็นพนักงานของรัฐด้วย โดยยังมิได้ลาออกจากตำแหน่ง นายชัยจึงเป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 96(7) จึงขอให้ศาลมีคำสั่งว่าการที่นายชัยได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดบุรีรัมย์เป็นไปโดยมิชอบ และสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่

นายชัยผู้คัดค้านที่ 1 คัดค้านว่าในการสมัครรับเลือกตั้ง ผู้คัดค้านได้ปฏิบัติชอบด้วยรัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และระเบียบของกระทรวงมหาดไทยแล้วทุกประการ ตำแหน่งทั้งสองมิใช่พนักงานของหน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 96(7) คำร้องขาดอายุความ ขอให้ยกคำร้อง

ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ผู้คัดค้านที่ 2 คัดค้านว่า ผู้คัดค้านเป็นผู้รับใบสมัครของผู้สมัครรับเลือกตั้งและประกาศผลการเลือกตั้งให้นายชัยผู้คัดค้านที่ 1 ได้รับเลือกตั้งโดยชอบแล้ว ขณะรับใบสมัครผู้คัดค้านที่ 1 ดำรงตำแหน่งกำนันตำบลอิสาณซึ่งมิใช่พนักงานของหน่วยงานของรัฐและไม่มีคำสั่งแต่งตั้งให้ผู้คัดค้านที่ 1 เป็นนายทะเบียนตำบลอิสาณ ผู้คัดค้านที่ 1 ได้ลาออกจากตำแหน่งกำนันก่อนวันเลือกตั้งและได้รับเลือกตั้งโดยชอบ ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ขอให้ยกคำร้อง

ปรากฏตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2522 ว่าในวันนัดพร้อม ทั้งสองฝ่ายได้ตรวจดูเอกสารที่เข้ามาสู่สำนวนแล้ว ต่างแถลงไม่ติดใจสืบพยานบุคคลต่อไป และพอใจที่ส่งเอกสารไว้แล้วด้วย คดีเสร็จการพิจารณา

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว มีความเห็นว่าควรให้ยกคำร้องของผู้ร้อง

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในเบื้องต้นเห็นสมควรวินิจฉัยปัญหาที่ว่าคำร้องของผู้ร้องทั้งสองชอบด้วยมาตรา 78 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2522 หรือไม่เสียก่อน เพราะเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดยกปัญหานี้ขึ้นกล่าวอ้างก็ตาม ทั้งนี้ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(5), 247 และพระราชบัญญัติการเลือกตั้งฯ ดังกล่าว มาตรา 79 พิเคราะห์แล้ว พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2522 หมวด 9 ว่าด้วยการคัดค้านการเลือกตั้ง มาตรา 78 บัญญัติว่า “เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศผลการเลือกตั้งของเขตเลือกตั้งใด ผู้เลือกตั้ง ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองซึ่งสมาชิกสมัครรับเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้น เห็นว่าการเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้นหรือเห็นว่าการที่บุคคลใดได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากการเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้นเป็นไปโดยมิชอบ อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 26, 32, 34, 51 หรือมาตรา 52 ผู้เลือกตั้ง ผู้สมัคร หรือพรรคการเมืองมีสิทธิยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลจังหวัดที่เขตเลือกตั้งนั้นตั้งอยู่หรือต่อศาลแพ่งสำหรับกรุงเทพมหานครภายในสามสิบวันเว้นแต่เฉพาะกรณีร้องคัดค้านตามมาตรา 32 หรือมาตรา 34 ให้ยื่นคำร้องคัดค้านภายในหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันประกาศผลการเลือกตั้ง เพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่” ดังนี้ เห็นว่าการคัดค้านการเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งใดเขตเลือกตั้งหนึ่ง บทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวได้จำกัดประเภทของบุคคลผู้มีสิทธิยื่นคำร้องคัดค้านไว้ ได้แก่ผู้เลือกตั้ง ผู้สมัครและพรรคการเมืองซึ่งมีสมาชิกสมัครรับเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้น โดยให้มีสิทธิยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลภายในระยะเวลาที่กำหนด ทั้งนี้ในกรณีที่เห็นว่า การเลือกตั้ง หรือการที่บุคคลใดได้รับเลือกตั้ง เป็นไปโดยมิชอบอันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 26, 32, 34, 51 หรือมาตรา 52 ด้วย ซึ่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มาตรา 26 บัญญัติว่าห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเข้าสมัครรับเลือกตั้งและการฝ่าฝืนมีโทษตามาตรา 84 เมื่อพิจารณาคำร้องของผู้ร้องทั้งสองแล้ว คงมีใจความสำคัญเพียงว่าในวันยื่นใบสมัครรับเลือกตั้งนายชัยผู้คัดค้านที่ 1 ผู้สมัครยังดำรงตำแหน่งกำนันตำบลอิสาณและนายทะเบียนตำบลอิสาณเป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 96(7) ที่ว่าเป็นพนักงานของหน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ ขอให้มีคำสั่งว่าการได้รับเลือกตั้งเป็นไปโดยมิชอบและสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่เท่านั้น คำร้องมิได้แสดงโดยแจ้งชัดแห่งข้อหาว่า การที่นายชัยผู้คัดค้านที่ 1 ได้รับการเลือกตั้งเป็นไปโดยมิชอบนั้นเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 26 ตามที่ระบุไว้ในมาตรา 78 อย่างไร กล่าวคือมิได้บรรยายข้อเท็จจริงว่านายชัยผู้คัดค้านที่ 1 ได้รู้แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเพราะเป็นบุคคลต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยมาตรา 96(7) แล้วยังเข้าสมัครรับเลือกตั้งอีก ฉะนั้น คำร้องของผู้ร้องทั้งสองซึ่งบรรยายอ้างถึงแต่คุณสมบัติของบุคคลที่ต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแต่อย่างเดียวจึงเป็นคำร้องที่ไม่ชอบด้วยมาตรา 78 ไม่มีเหตุที่จะรับไว้เพื่อพิจารณาวินิจฉัยและมีคำสั่งว่าการที่นายชัยผู้คัดค้านที่ 1 ได้รับเลือกตั้งเป็นไปโดยมิชอบสมควรให้มีการเลือกตั้งใหม่หรือไม่ตามมาตรา 79 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2522 นั้นแต่ประการใด คดีไม่จำต้องวินิจฉัยประเด็นข้ออื่นต่อไป

จึงมีคำสั่งยกคำร้องของผู้ร้องทั้งสอง

Share