คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 281/2517

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยยิงผู้เสียหายในระยะห่าง 2 วา มีบาดแผลบริเวณใบหน้าและหัวไหล่ขวา ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3 มิลลิเมตร แผลที่ใบหน้ามี 12 แผล มีเลือดซึมเล็กน้อย และที่หัวไหล่มี 7 แผลบาดแผลแต่ละแห่งมีกระสุนเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 มิลลิเมตรฝังใต้ผิวหนัง แพทย์ลงความเห็นว่าอาจจะหายภายใน 10-14 วันผู้เสียหายรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 10 วันเศษแสดงว่า เป็นบาดแผลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และไม่ได้ความว่าถ้าผู้เสียหายไม่มารับการรักษาที่โรงพยาบาลทันท่วงทีอาจถึงชีวิตได้ ย่อมแสดงว่าอาวุธปืนที่จำเลยใช้ยิงไม่อาจทำให้ผู้เสียหายถูกยิงถึงตายได้ แม้จะถูกอวัยวะสำคัญของร่างกาย ดังนี้ กรณีต้องปรับด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 81

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80

จำเลยให้การว่าได้ยิงผู้เสียหายจริง แต่กระทำไปเพื่อป้องกันตัว

ผู้เสียหายร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลอนุญาต

ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยกระทำเพื่อป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุพิพากษายกฟ้องโจทก์

โจทก์และโจทก์ร่วมอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้อง ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 80 ลงโทษจำคุกจำเลย ลดโทษแล้วคงจำคุก 6 ปี 8 เดือน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่จำเลยยิงผู้เสียหายมิใช่เป็นการป้องกันตัว แล้วฟังข้อเท็จจริงต่อไปว่า คดีนี้จับปืนของกลางไม่ได้และในชั้นพิจารณาก็ไม่ปรากฏว่าปืนนั้นเป็นปืนอะไร แต่ในชั้นสอบสวนจำเลยให้การว่าปืนที่ใช้ยิงเป็นปืนลูกซองพกทำในประเทศไทย ขนาดเบอร์ 12 ตามรายงานการตรวจชันสูตรบาดแผลของแพทย์ท้ายฟ้อง ปรากฏว่า ลักษณะบาดแผลบริเวณใบหน้าด้านขวาและหัวไหล่ขวามีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3 มิลลิเมตร บาดแผลบริเวณใบหน้าด้านขวามี 12 แผลมีเลือดซึมเล็กน้อย และบริเวณหัวไหล่มี 7 แผล บาดแผลแต่ละแห่งมีกระสุนเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 มิลลิเมตร ฝังใต้ผิวหนัง อาจจะหายภายใน 10 – 14 วัน ผู้เสียหายรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 10 วันเศษ แสดงว่าเป็นบาดแผลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จำเลยยิงผู้เสียหายห่างราว 2 วา แม้จะฟังว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย แต่เมื่อบาดแผลผู้เสียหายมีเพียงเล็กน้อย และไม่ได้ความว่าถ้าผู้เสียหายไม่มารับการรักษาที่โรงพยาบาลทันท่วงทีอาจถึงชีวิตได้ ย่อมแสดงว่าอาวุธปืนที่จำเลยใช้ยิงไม่อาจทำให้ผู้เสียหายถูกยิงถึงตายได้ แม้จะถูกอวัยวะสำคัญของร่างกาย ทั้งไม่อาจจะชี้ขาดไปได้ว่าอาวุธปืนและกระสุนปืนที่จำเลยใช้ยิงมีกำลังแรงพอที่จะทำให้ผู้เสียหายถึงตายได้ เพราะถ้าเป็นอาวุธปืนที่มีกำลังแรงสามารถทำให้ผู้ถูกยิงถึงตายได้แล้ว กระสุนปืนที่ยิงไปก็น่าจะทะลุถึงกระดูก ไม่ฝังอยู่เพียงใต้ผิวหนังอย่างแน่นอนกรณีจึงต้องปรับด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 81 โดยถือว่าจำเลยกระทำการโดยมุ่งต่อผลซึ่งกฎหมายบัญญัติเป็นความผิดแต่การกระทำนั้นไม่สามารถบรรลุผลได้อย่างแน่แท้เพราะเหตุปัจจัยซึ่งใช้ในการกระทำผิด

พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 81 ให้จำคุกจำเลย 4 ปี

Share