แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
คดีก่อนจำเลยฟ้องโจทก์เป็นคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาว่าที่ดินพิพาทคดีนี้เป็นของจำเลย ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ทั้งสอง ให้ยกฟ้องโจทก์จึงฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ ดังนี้ จำเลยจะต่อสู้ว่าที่ดินพิพาทเป็นของจำเลยอีกไม่ได้เพราะผลแห่งคำพิพากษาคดีก่อนผูกพันจำเลยมิให้โต้แย้งเป็นอย่างอื่นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา145
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยไปจดทะเบียนแบ่งแยกที่ดินตามโฉนดแก่โจทก์ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่าก่อนคดีนี้จำเลยเคยฟ้องโจทก์ทั้งสองเป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ตามคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1028/2519 ของศาลจังหวัดอ่างทอง ว่าที่ดินพิพาทคดีนี้เป็นของจำเลย โจทก์ทั้งสองร่วมกันบุกรุกเข้าไปเพื่อถือการครอบครองและทำการอันเป็นการรบกวนการครอบครองของจำเลยโดยปกติสุข ขอให้ลงโทษและห้ามโจทก์ทั้งสองกับบริวารเกี่ยวข้องกับที่ดินพิพาท โจทก์ทั้งสองให้การต่อสู้ว่า ที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ทั้งสอง ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ทั้งสอง ให้ยกฟ้อง โจทก์ทั้งสองจึงฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ เห็นว่าคำพิพากษาคดีก่อนวินิจฉัยชี้ขาดไว้แล้วว่า ที่ดินพิพาทคดีนี้เป็นของโจทก์ทั้งสอง จำเลยจะต่อสู้ว่าที่ดินพิพาทเป็นของจำเลยอีกไม่ได้เพราะผลแห่งคำพิพากษาคดีก่อนผูกพันจำเลยมิให้โต้แย้งเป็นอย่างอื่นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145”
พิพากษายืน