แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยใช้ปืนพกลูกโม่ชนิดทำเองยิงผู้เสียหาย ปืนนี้ใช้ยิงทำอันตรายแก่ชีวิตได้มีช่องบรรจุกระสุน 7 ช่อง แต่ จำเลยบรรจุไว้เพียง 4 ช่อง ช่องที่ตรงกับเข็มแทงชนวนอาจเป็นช่องว่าง เมื่อจำเลยสับนกลงไปจึงมีเสียงดังเพียะเท่านั้น กระสุนปืนไม่ลั่นและปืนนี้เวลายิงต้องใช้มือหมุนลูกโม่ จำเลยยิงซ้ำโดยไม่ได้หมุนลูกโม่ให้ช่องที่บรรจุกระสุนตรงกับเข็มแทงชนวนอาจเป็นเพราะความรีบร้อนหรือตกตะลึง ถ้าจำเลยได้บรรจุกระสุนไว้ในช่องที่ตรงกับเข็มแทงชนวนเมื่อยิงครั้งแรก หรือหมุนลูกโม่ให้เข็มแทงชนวนตรงกับช่องที่บรรจุกระสุนเมื่อยิงซ้ำ กระสุนปืนจะต้องลั่น และผู้เสียหายก็น่าจะได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิตได้การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นการแน่แท้ว่าจะไม่สามารถทำให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายได้ ต้องปรับด้วยประมวลกฎหมายอาญามาตรา 80
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกอีกหนึ่งคน มีอาวุธปืนพกลูกโม่ขนาด .๒๒ ชนิดทำใช้ยิงได้ ไม่มีเครื่องหมายทะเบียน ๑ กระบอกและกระสุนปืนขนาด .๒๒ รวม ๔ นัดไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต แล้วจำเลยกับพวกร่วมกันชิงทรัพย์สายสร้อยคอของนางกุยจิ๋น แซ่ลี้ สิบตำรวจเอกสง่า เชยล้อมขำ จะเข้าจับกุมจำเลยได้ต่อสู้ขัดขวางและใช้อาวุธปืนยิงสิบตำรวจเอกสง่าโดยเจตนาฆ่า แต่การกระทำไม่บรรลุผล เพราะกระสุนปืนไม่ลั่น ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๕(๗), ๓๓๙, ๑๓๘, ๑๔๐, ๒๘๙,๘๐, ๘๓, ๓๗๑, ๕๖, ๕๘ และพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. ๒๔๙๐มาตรา ๗, ๗๒ พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๑๐มาตรา ๓ กับขอให้นำโทษในคดีก่อนมาบวก และริบของกลาง
ชั้นแรกจำเลยให้การปฏิเสธ เมื่อสืบพยานโจทก์ไปบ้างแล้วจำเลยขอรับสารภาพตามฟ้อง
ศาลชั้นต้นเห็นว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้องแต่ข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงานนั้นจำเลยยิงสิบตำรวจเอกสง่าโดยสับนกปืนในช่องที่ไม่มีกระสุนบรรจุอยู่ จึงเท่ากับยิงโดยไม่มีกระสุน การกระทำของจำเลยไม่สามารถบรรลุผลได้อย่างแน่แท้ เพราะเหตุปัจจัยซึ่งใช้ในการกระทำ จึงให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙, ๘๑อันเป็นกระทงหนัก ให้จำคุก ๖ ปี ลดรับสารภาพกึ่งหนึ่ง คงจำคุก ๓ ปีบวกกับโทษที่รอไว้ ๑ ปี รวมเป็น ๔ ปี ปืนและกรปืนของกลางให้ริบ
โจทก์จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙, ๘๐ ให้จำคุก ๑๖ ปี รับลดกึ่งคงจำคุก ๘ ปี รวมกับโทษที่รอไว้ ๑ ปี รวมเป็น ๙ ปี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ปืนของกลางใช้ยิงได้ และสามารถใช้ยิงทำอันตรายแก่ชีวิตและวัตถุได้ กระสุนปืนของกลางใช้ยิงกับปืนของกลางได้ สาเหตุที่ปืนไม่ลั่นนั้นอาจเป็นเพราะปืนของกลางมีช่องบรรจุกระสุน ๗ ช่อง แต่จำเลยบรรจุไว้เพียง ๔ ช่อง ช่องที่ตรงกับเข็มแทงชนวนอาจเป็นช่องว่างไม่มีกระสุนปืน เมื่อจำเลยสับนกลงไปจึงมีเสียงดังเพียะเท่านั้น และปืนของกลางเวลายิงต้องใช้มือหมุนลูกโม่ จำเลยยิงซ้ำโดยไม่ได้หมุนลูกโม่ให้ช่องที่บรรจุกระสุนตรงกับเข็มแทงชนวน อาจเป็นเพราะความรีบร้อนหรือตกตะลึง ถ้าจำเลยได้บรรจุกระสุนไว้ในช่องที่ตรงกับเข็มแทงชนวนเมื่อยิงครั้งแรกหรือหมุนลูกโม่ให้เข็มแทงชนวนตรงกับช่องที่บรรจุกระสุนเมื่อยิงซ้ำ กระสุนปืนนั้นจะต้องลั่น และสิบตำรวจเอกสง่าก็น่าจะได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ดังนั้น การกระทำของจำเลยไม่เป็นการแน่แท้ว่าจะไม่สามารถทำให้ผู้ถูกยิงได้รับอันตรายจากการยิงของจำเลยกรณีจึงต้องปรับด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๐ข้อวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ชอบด้วยรูปคดีแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ยกฎีกาจำเลย